บทความข่าวสารไอที

Internal Hard Disk เลือกใช้งานอย่างไรให้เหมาะสม

Internal Hard Disk เลือกใช้งานอย่างไรให้เหมาะสม

เชื่อว่าหลายคนคงรู้จักกันดีกับเจ้า Hard Disk ซึ่งเป็นอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลชนิดหนึ่ง แต่ก็เชื่อว่ายังมีอีกหลายคนที่ไม่รู้ว่าคืออะไร มีรูปร่างหน้าตาเป็นแบบไหน มีประเภทอะไรบ้าง รวมถึงคุณสมบัติแยกย่อยอีกมากมาย โดยฮาร์ดดิสก์นั้นจะแบ่งเป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ ได้แก่ External Hard Disk ที่ใช้สำหรับบันทึกเก็บข้อมูลแบบถอดผ่านทาง USB และ Internal Hard Disk ฮาร์ดดิสก์สำหรับติดตั้งบนคอมพิวเตอร์ แล็ปท็อป และอุปรกณ์ต่าง ๆ ที่รองรับ ซึ่งฮาร์ดดิสก์ 2 ประเภทนี้ จะมีลักษณะการใช้งานที่แตกต่างกัน แต่จุดประสงค์จะใช้สำหรับเก็บข้อมูลเหมือนกัน

 

วิธีเลือก Internal Hard Disk ให้เหมาะสมกับการใช้งาน

ในบทความนี้เราได้นำรายละเอียดแบบคร่าว ๆ เกี่ยวกับการเลือกซื้อฮาร์ดดิสก์ เพื่อให้หลาย ๆ คนสามารถเลือกฮาร์ดดิสก์ไปใช้งานได้อย่างคุ้มค่ามากที่สุด ที่สำคัญ ควรคำนึงว่าจะนำฮาร์ดดิสก์ไปใช้กับงานประเภทไหน และคำนวนความจุที่จะใช้หรือเผื่อไว้ใช้ในอนาคต รวมถึงขนาดของฮาร์ดดิสก์และความเร็วในการอ่าน-เขียนข้อมูล

 

1. เลือกจากประเภทของ Internal Hard Disk

Internal Hard Disk จะมีด้วยกันอยู่หลายประเภท โดยแต่ละประเภทนั้นจะมีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน เพื่อให้ตอบโจทย์ในการใช้งานอย่างเหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานทั่วไป หรือใช้งานกับ NAS , CCTV หรือใช้งานสำหรับ Server ซึ่ง Internal Hard Disk อาจแตกต่างในเรื่องของความจุ ความเร็วในการอ่าน-เขียนข้อมูล รวมถึงระยะเวลาในการใช้งาน ดังนี้

      • ประเภททั่วไป (เหมาะสำหรับใช้งานกับ PC)

Internal Hard Disk ประเภททั่วไป หรือที่เรียกกันว่า HDD for PC เป็นประเภทของฮาร์ดดิสก์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดเลยก็ว่าได้ เพราะหาซื้อได้ง่าย ราคาย่อมเยา และถูกออกแบบมาให้สามารถใช้งานกับคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ หรือแล็ปท็อปโดยเฉพาะ นอกจากนี้ ยังมีแบบชนิดพิเศษที่ถูกออกแบบมาให้เหมาะกับลักษณะการใช้งานเฉพาะกลุ่ม ซึ่งมักถูกออกแบบมาให้อ่าน-เขียนข้อมูลต่าง ๆ ได้อย่างเสถียรและแม่นยำขึ้น อีกทั้งยังมีการพัฒนาให้มีความทนมากกว่า HDD แบบปกติ ทำให้ฮาร์ดดิสก์ชนิดพิเศษนี้ได้รับความน่าเชื่อถือ และไว้วางใจมากกว่าแบบทั่วไป

      • NAS (เหมาะสำหรับใช้กับที่จัดเก็บข้อมูล)

NAS หรือ Network Attached Storage เป็นอุปกรณ์ที่เสมือนศูนย์กลางในการจัดเก็บข้อมูล หรือแชร์ข้อมูลภายในองค์กร ทั้งไฟล์งาน รูปถ่าย หรือสื่อต่าง ๆ โดยฮาร์ดดิสก์ที่จะนำมาใช้ติดตั้ง ควรมีคุณสมบัติที่รองรับการทำงานแบบ 24 x 7 ซึ่งก็คือสามารถทำงานได้แบบ 24/7 ดังนั้น ฮาร์ดดิสก์ที่จะนำมาติดตั้งสำหรับ NAS ต้องมีความทนสูง

      • Surveillance (เหมาะสำหรับกล้องวงจรปิด)

Surveillance เป็น HDD ที่ถูกออกแบบมาให้ใช้งานร่วมกับการบันทึกภาพกล้องวงจรปิด โดยฮาร์ดดิสก์ที่จะนำมาใช้งานกับกล้องวงจรปิดจะมีคุณสมบัติที่สามารถทำงานได้ทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง และต้องเน้นความจุที่เยอะไว้สำหรับจัดเก็บวิดีโอที่มีความละเอียดสูง เพราะจะมีขนาดไฟล์ที่ค่อนข้างใหญ่พอสมควร และบางแบรนด์อาจมีเทคโนโลยีที่ชื่อว่า All Frame สำหรับลดการขาดช่วงของเฟรม แถมยังบันทึกวิดีโอที่ควาามละเอียดสูงระดับ HD ได้เป็นอย่างดี

      • Enterprise (เหมาะสำหรับ Data Center)

Internal Hard Disk ประเภทที่ค่อนข้างพิเศษสำหรับใช้งานร่วมกับ Data Center จะเป็นห้องที่ใช้สำหรับบันทึก หรือจัดเก็บข้อมูลระยะยาว และมีข้อมูลจำนวนมาก ซึ่งฮาร์ดดิสก์ประเภทนี้จะถูกออกแบบมาให้ทนเป็นพิเศษ สามารถใช้งานได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยไม่มีพัก อีกทั้งยังมาพร้อมกับ Cache Size กับความจุที่มากกว่าปกติ เพื่อให้การโอนถ่ายข้อมูลนั้นรวดเร็วไม่มีสะดุด ทำให้ Internal Hard Disk ประเภทนี้มีราคาที่ค่อนข้างสูง

 

2. เลือกความจุของ Internal Hard Disk ให้เข้ากับลักษณะการใช้งาน

สิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามอีกเรื่องก็คือ การเลือกฮาร์ดดิสก์สำหรับนำไปใช้งานให้เหมาะสม โดยควรคำนึงถึงชนิดของไฟล์ที่จัดเก็บ เช่น หากต้องจัดเก็บข้อมูลที่เป็นพวกสื่อต่าง ๆ อย่างรูปภาพหรือวิดีโอ ควรเลือกฮาร์ดดิสก์ที่มีความจุปริมาณมาก เพื่อให้รองรับการใช้งาน ซึ่งขนาดของฮาร์ดดิสก์ที่เหมาะสมสำหรับใช้งานทั่วไป ขนาด 1 TB (1,000 GB) ก็น่าจะเพียงพอแล้ว ส่วนการใช้งานกับ NAS , CCTV หรือ Data Center อาจคำนวณได้จากอัตราการเพิ่มขึ้นของข้อมูลต่อสัปดาห์หรือต่อเดือน และดูความจุขั้นต่ำของฮาร์ดดิสก์แต่ละประเภท รวมถึงพื้นที่ หากนำฮาร์ดดิสก์มาทำ RAID ว่าเหลือพื้นที่เท่าไหร่ให้ได้ใช้

 

3. ตรวจสอบขนาดของ Internal Hard Disk จากอุปกรณ์ที่นำไปใช้งาน

Internal Hard Disk ที่นิยมใช้จะมี 2 ขนาด คือ 3.5 นิ้ว และ 2.5 นิ้ว แนะนำให้ตรวจสอบให้ดีว่าอุปกรณ์ที่จะนำ Internal Hard Disk ไปใช้งานด้วยนั้นรองรับการติดตั้งฮาร์ดดิสก์ขนาดเท่าไหร่บ้าง ซึ่งส่วนมากหากนำไปใช้กับคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ กล้องวงจรปิด หรือ NAS ต้องเลือก Internal Hard Disk ขนาด 3.5 นิ้ว ที่สำคัญคือต้องเลือกให้ตรงตามประเภทที่รองรับเท่านั้น ส่วน Internal Hard Disk ขนาด 2.5 นิ้ว จะใช้สำหรับแล็ปท็อปเป็นส่วนใหญ่

 

4. ตรวจสอบ Cache Size ของ Internal Hard Disk เพื่อการทำงานที่ประสิทธิภาพมากขึ้น

Cache Size หรือ Buffer Size เป็นหน่วยความจำที่ใช้สำหรับพักข้อมูล จะทำงานร่วมกับ Internal Hard Disk โดยข้อมูลที่ถูกพักจะเป็นข้อมูลที่ถูกคาดคะเน และถูกถ่ายโอนมาไว้ล่วงหน้า เพื่อเวลาที่ Hard Disk อ่าน-เขียนไฟล์ขึ้นมาใหม่จะได้ราบรื่น ไม่ติดขัด ตัวอย่างเช่น เวลาดูวิดีโอบน YouTube หลาย ๆ คนมักกด Pause ให้ดาวน์โหลดวิดีโอก่อนล่วงหน้า ซึ่งขั้นตอนนี้จะเรียกว่า Buffer เพื่อที่เวลากดเล่นวิดีโอจะได้เล่นต่อได้อย่างไหลลื่น ดังนั้น หาก Internal Hard Disk ที่เลือกซื้ออยู่นั้น มีค่า Cache Size มากเท่าไหร่ ประสิทธิภาพในการอ่าน-เขียนข้อมูลจะเป็นไปอย่างราบลื่นและไม่มีกระตุกมากขึ้นเท่านั้น

 

สรุป

Internal Hard Disk หลาย ๆ รุ่น แม้จะมาพร้อมเทคโนโลยีที่ช่วยยืดอายุการใช้งาน แต่สิ่งที่ไม่ควรละเลยก็คือการดูแลรักษา แนะนำให้ติดตั้งอุปกรณ์สำรองไฟฟ้าให้กับคอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์ที่นำฮาร์ดดิสก์ไปใช้งานด้วย เพื่อป้องกัน Hard Disk เสียหายในกรณีที่ไฟกระชากหรือไฟตก รวมถึงการตรวจสอบอุณหภูมิของฮาร์ดดิสก์หากถูกใช้งานอย่างหนัก เพราะอาจส่งผลให้วงจรภายในเกิดการช็อตได้

 

* เนื้อหาในบทความอาจมีผิดพลาดได้ โปรดตรวจสอบข้อมูลใหม่อีกครั้ง