8 แบรนด์กล้องวงจรปิดไร้สาย น่าใช้ 2025
ยุคนี้เรื่องความปลอดภัยกลายเป็นสิ่งที่ใครๆ ก็ให้ความสำคัญ โดยเฉพาะในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ที่หลายคนหันมาทำงานที่บ้านมากขึ้น กล้องวงจรปิดจึงไม่ใช่แค่อุปกรณ์รักษาความปลอดภัย แต่ยังเป็นตัวช่วยในการดูแลบ้านและคนที่เรารักได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ปี 2025 วงการกล้องวงจรปิดไร้สายมีการพัฒนาก้าวกระโดด ทั้งเรื่องความคมชัด ระบบ AI อัจฉริยะ และการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์สมาร์ทโฮมต่างๆ มาดูกันว่าแบรนด์ไหนมีจุดเด่นอะไรบ้าง
Dahua Technology – จากจีนสู่แบรนด์ระดับโลก
ถ้าพูดถึงกล้องวงจรปิดไร้สายระดับพรีเมียม Dahua เป็นหนึ่งในแบรนด์แรกๆ ที่วิศวกรมืออาชีพนึกถึง ด้วยการทุ่มงบวิจัยและพัฒนามหาศาล ทำให้เทคโนโลยีของ Dahua ล้ำหน้าคู่แข่งไปหลายก้าว
จุดเด่นที่น่าทึ่งคือเทคโนโลยี Starlight ที่ให้ภาพคมชัดแม้ในที่แทบไม่มีแสง ลองนึกภาพว่าแม้ในคืนเดือนมืด กล้อง Dahua ก็ยังจับภาพได้ชัดด้วยความไวแสงระดับ 0.002 lux เท่านั้น ไม่ต้องง้อไฟ LED หรือ infrared ให้รบกวนสายตา
ระบบ AI ของ Dahua ก็ไม่ธรรมดา ด้วย Neural Network รุ่นล่าสุดที่แยกแยะวัตถุได้ละเอียดถึง 256 ประเภท ทำให้การแจ้งเตือนแม่นยำขึ้นมาก เลิกกวนใจกับการแจ้งเตือนเวลาแมวเดินผ่านหรือต้นไม้ไหว ที่สำคัญ Dahua เข้ากันได้ดีกับอุปกรณ์ IoT หลากหลายแบรนด์ ผ่านมาตรฐาน ONVIF Profile S ทำให้สร้างระบบรักษาความปลอดภัยแบบครบวงจรได้ง่าย ตั้งแต่ประตูอัจฉริยะยันระบบแจ้งเตือนควันไฟ
Uniarch – น้องใหม่มาแรงที่ไม่ธรรมดา
Uniarch อาจจะเป็นแบรนด์ที่หลายคนยังไม่คุ้น แต่รู้ไหมว่าพวกเขาใช้เซ็นเซอร์ระดับท็อปจาก Sony STARVIS™ เหมือนกล้องระดับมืออาชีพราคาแพงๆ ทำให้ได้ภาพคมชัดระดับ Full HD แม้ในที่แสงน้อย
จุดเด่นของกล้องวงจรปิดไร้สาย Uniarch อยู่ที่ความ User-friendly สุดๆ ติดตั้งเองได้ใน 5 นาที แอพใช้งานง่ายไม่ซับซ้อน แถมยังมี AI ที่ฉลาดพอจะเรียนรู้พฤติกรรมการใช้งานของเรา เช่น ถ้าเราชอบปิดการแจ้งเตือนตอนกลางวัน ระบบก็จะจำและปรับให้อัตโนมัติ
เรื่องการเก็บข้อมูลก็น่าประทับใจ ด้วยระบบบีบอัดวิดีโอ H.265+ ที่ประหยัดพื้นที่ได้มากถึง 75% เทียบกับระบบเก่า H.264 แถมยังให้พื้นที่คลาวด์ฟรี 30 วัน ไม่มีค่าใช้จ่ายแอบแฝง
Hikvision – ราชาตลาดกล้องวงจรปิดที่ใครๆ ก็รู้จัก
Hikvision ถือเป็นเจ้าตลาดตัวจริง ครองส่วนแบ่งตลาดกล้องวงจรปิดไร้สายอันดับหนึ่งมาหลายปี ล่าสุดพวกเขาปล่อยเทคโนโลยี ColorVu รุ่นที่ 3 ออกมาทำให้ตลาดตะลึง ด้วยความสามารถในการเก็บภาพสีในที่มืดสนิทได้อย่างคมชัด
จุดเด่นอยู่ที่เลนส์พิเศษค่า F/1.0 ที่รับแสงได้มากกว่าเลนส์ทั่วไปเกือบ 3 เท่า เหมือนมีตาแมวติดตั้งอยู่หน้าบ้านเลยทีเดียว แถมระบบ AcuSense 2.0 ยังฉลาดพอที่จะแยกแยะได้ว่าอะไรคือคน อะไรคือรถ อะไรคือสัตว์เลี้ยง ลดการแจ้งเตือนที่ไม่จำเป็นได้มากถึง 98%
ที่เจ๋งไปกว่านั้นคือเทคโนโลยี TandemVu ที่รวมกล้อง 2 ตัวไว้ในหนึ่งเดียว ตัวหนึ่งมองภาพกว้างแบบ 180 องศา อีกตัวซูมได้ไกลๆ ทำให้เห็นทั้งภาพรวมและรายละเอียดในจุดที่ต้องการ
IMOU – สมาร์ทโฮมเมคเกอร์ตัวจริง
IMOU เข้าใจการใช้งานในบ้านยุคใหม่อย่างแท้จริง ด้วยระบบ Active Deterrent ที่ไม่ใช่แค่ดูและแจ้งเตือน แต่ยังช่วยป้องกันเหตุร้ายได้ด้วย LED และเสียงไซเรนอัจฉริยะที่จะดังขึ้นเมื่อตรวจจับความผิดปกติ
เรื่องการมองเห็นในที่มืดก็มาแบบพรีเมียมด้วย Night Vision Pro ที่ใช้ไฟ LED แสงอุ่น ไม่เป็นจุดสะดุดตาเหมือนไฟ infrared แดงๆ ที่เราเห็นกันทั่วไป แถมยังถนอมสายตาในเวลากลางคืนด้วย
ที่ทำให้กล้องวงจรปิดไร้สาย IMOU ต่างจากแบรนด์อื่นคือการรองรับ IFTTT ทำให้สั่งการผ่าน Google Assistant หรือ Alexa ได้ เช่น “เปิดไฟหน้าบ้านเมื่อกล้องจับความเคลื่อนไหว” หรือ “บันทึกวิดีโอเมื่อประตูถูกเปิด” สะดวกสุดๆ
EZVIZ – ใช้ง่าย สบายกระเป๋า แต่สเปคไม่ธรรมดา
กล้องวงจรปิดไร้สาย EZVIZเป็นแบรนด์ที่เข้าใจผู้ใช้ทั่วไปอย่างแท้จริง ด้วยระบบ Auto Zoom Tracking ที่จะซูมติดตามวัตถุที่เคลื่อนไหวโดยอัตโนมัติ เหมือนมีช่างภาพส่วนตัวคอยจับภาพตลอด 24 ชั่วโมง
เทคโนโลยี PQ (Picture Quality) ของ EZVIZ ก็น่าทึ่ง ด้วยการปรับแต่งภาพแบบเรียลไทม์ตามสภาพแสง ทำให้ภาพไม่มืดหรือสว่างจนเกินไป แม้สภาพแสงจะเปลี่ยนแปลงตลอดทั้งวัน
ที่น่าประทับใจคือระบบ Local Storage ที่รองรับ SD Card ขนาดใหญ่ถึง 512GB ทำให้เก็บข้อมูลได้นานเป็นเดือนโดยไม่ต้องพึ่งคลาวด์ แต่ถ้าใครอยากใช้คลาวด์ EZVIZ ก็มีแพคเกจไม่จำกัดพื้นที่ให้เลือกในราคาที่สมเหตุสมผล
TP-Link – จากเจ้าพ่อเร้าเตอร์สู่กล้องวงจรปิดคุณภาพเยี่ยม
ใครที่คุ้นเคยกับเร้าเตอร์ TP-Link คงไม่แปลกใจที่พวกเขาทำกล้องวงจรปิดไร้สายออกมาได้ดีขนาดนี้ ด้วยประสบการณ์ด้านเครือข่ายที่สั่งสมมานาน ทำให้การเชื่อมต่อเสถียรเป็นพิเศษ
เทคโนโลยี OneMesh™ ของ TP-Link ทำให้สัญญาณครอบคลุมทั่วบ้าน ไม่มีมุมอับ แม้จะติดตั้งกล้องไกลจากเร้าเตอร์ก็ไม่มีสะดุด ระบบ Night Vision 2.0 ให้ภาพกลางคืนคมชัดในระยะไกลถึง 30 เมตร
ที่เด็ดไปกว่านั้นคือระบบเสียง 2 ทางที่มาพร้อมเทคโนโลยีตัดเสียงรบกวน ทำให้คุยกับคนที่หน้าบ้านได้ชัดเจน ไม่มีเสียงลมหรือเสียงรถรบกวน
VStar Cam – น้องใหม่สเปคโหด ราคาเบาๆ
VStar Cam เป็นอีกแบรนด์กล้องวงจรปิดไร้สายที่น่าจับตามอง ด้วยการใช้เซ็นเซอร์เรือธง Sony IMX335 ความละเอียด 5MP เหมือนกล้องระดับมืออาชีพ แต่ราคาเป็นมิตรกับกระเป๋าสตางค์มากกว่า
จุดเด่นอยู่ที่ระบบ 3D DNR (Digital Noise Reduction) ที่กำจัดสัญญาณรบกวนในภาพกลางคืนได้อย่างหมดจด ภาพที่ได้จึงคมชัด ไม่มีจุดรบกวนหรือภาพซ่าเหมือนกล้องทั่วไป แถมยังมี WDR ที่ปรับแสงอัตโนมัติ ทำให้เห็นรายละเอียดทั้งในที่มืดและสว่างพร้อมกัน
ใครกังวลเรื่องน้ำฝนหรือแดดจัด VStar Cam มาพร้อมมาตรฐานกันน้ำ IP67 ทนทานต่อทุกสภาพอากาศ ติดตั้งนอกบ้านได้สบายใจ แอพ V380 Pro ก็ใช้งานง่าย รองรับการดูภาพพร้อมกันหลายจอ เหมาะสำหรับบ้านหลังใหญ่หรือออฟฟิศ
Hilook – รสชาติ Hikvision ในราคาที่จับต้องได้
Hilook เป็นแบรนด์ลูกของ Hikvision ที่นำเทคโนโลยีเด่นๆ จากรุ่นพี่มาทำให้ราคาถูกลง แต่คุณภาพยังคงมาตรฐานระดับสากล ระบบ EXIR 2.0 ให้ภาพกลางคืนคมชัดไม่แพ้รุ่นแพงๆ
เทคโนโลยี Smart IR ปรับความสว่างของไฟ infrared ตามระยะห่างของวัตถุ ทำให้ภาพจาก กล้องวงจรปิดไร้สายไม่สว่างจ้าหรือมืดเกินไป แม้วัตถุจะเคลื่อนที่เข้าออกตลอดเวลา ระบบบีบอัดวิดีโอ H.265+ ช่วยประหยัดพื้นที่เก็บข้อมูลได้มากถึง 50%
ที่น่าประทับใจคือการรองรับ Hik-Connect แพลตฟอร์มระดับพรีเมียมจาก Hikvision ทำให้จัดการกล้องได้ง่าย ดูย้อนหลัง แชร์ภาพ หรือตั้งค่าการแจ้งเตือนได้ครบครัน
สรุป เลือกยังไงให้เหมาะกับการใช้งาน
การเลือกกล้องวงจรปิดไร้สายในปี 2025 ไม่ใช่แค่ดูราคาอย่างเดียว ต้องพิจารณาปัจจัยหลายอย่าง:
- ถ้าเน้นคุณภาพระดับมืออาชีพ Dahua หรือ Hikvision คือตัวเลือกที่ดี
- หากต้องการความคุ้มค่า Uniarch หรือ Hilook น่าสนใจ
- สำหรับบ้านอัจฉริยะ IMOU หรือ Reolink ตอบโจทย์
- ถ้าเน้นใช้งานง่าย EZVIZ หรือ TP-Link เหมาะสม
- กรณีงบจำกัดแต่อยากได้สเปคดี VStar Cam หรือ Annke น่าพิจารณา
สุดท้าย อย่าลืมตรวจสอบบริการหลังการขายและการรับประกันให้ดี เพราะกล้องวงจรปิดคือการลงทุนระยะยาวเพื่อความปลอดภัยของคนที่คุณรัก