บทความข่าวสารไอที

7 Flash Drive OTG ยี่ห้อไหนดี ราคาถูก ถ่ายโอนข้อมูลไว

7 Flash Drive OTG ยี่ห้อไหนดี ราคาถูก ถ่ายโอนข้อมูลไว

Flash Drive OTG จะค่อนข้างมีความยืดหยุ่นในการใช้งานมากกว่าแฟลชไดร์ฟทั่วไป เพราะสามารถนำไปใช้กับสมาร์ทโฟนได้สบาย ๆ ซึ่งสิ่งสำคัญที่ผู้ใช้งานจะต้องคำนึงถึงเป็นอันดับแรกคือเรื่องของพอร์ตการเชื่อมต่อ หากใช้ระบบ Android จะเป็นพอร์ต USB Type-C แต่หากใช้ Apple จะเป็นพอร์ต Lightning ดังนั้น ควรเลือกพอร์ตให้ตรงกับอุปกรณ์ที่ใช้ และวันนี้เราจะมาแนะนำรุ่นและยี่ห้อต่าง ๆ ของ Flash Drive OTG เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกซื้อได้ง่ายขึ้น

 

7 Flash Drive OTG สำหรับเพิ่มพื้นที่ให้ความจำ ราคาถูก

1. Kingston รุ่น DataTraveler 70

Kingston รุ่น DataTraveler 70 จะใช้อินเตอร์เฟซ USB Type-C 3.2 Gen.1 สามารถส่งข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว โดยจะเร็วกว่า USB 2.0 ถึง 10 เท่า ซึ่งจะมีความจุให้เลือกใช้งานทั้งขนาด 32 GB , 64 GB และ 128 GB ทำให้เก็บข้อมูลได้หลายรูปแบบ ตัวแฟลชไดร์ฟจะมีดีไซน์ภายนอกที่ดูเรียบง่าย ขนาดเล็ก น้ำหนักเบา พกพาได้สะดวก แถมยังมาพร้อมกับฝาปิดในฝั่งของ USB ที่นอกจากจะช่วยกันฝุ่นแล้ว ยังป้องกันการกระแทกได้อีกด้วย

 

2. SanDisk รุ่น Ultra Dual Drive m 3.0

SanDisk รุ่น Ultra Dual Drive m 3.0 เหมาะสำหรับนำมาใช้งานร่วมกับสมาร์ทโฟนหรืออุปกรณ์ Android รุ่นเก่า ๆ โดยที่ความเร็วในการโอนถ่ายข้อมูลจะอยู่ในระดับที่พอเหมาะต่อการใช้งาน ซึ่งจะมีความจุตั้งแต่ขนาด 16 GB , 32 GB , 64 GB , 128 GB และ 256 GB ตัวแฟลชไดร์ฟจะถูกออกแบบมาให้มีขนาดที่เล็กเป็นพิเศษ และมาพร้อมห่วงสำหรับคล้องพวงกุญแจ สำหรับอุปกรณ์ Android รุ่นเก่าสามารถนำแฟลชไดร์ฟรุ่นนี้มาใช้โอนถ่ายข้อมูลได้

 

3. SanDisk รุ่น Ultra Dual Drive Go

7 Flash Drive OTG ยี่ห้อไหนดี ราคาถูก ถ่ายโอนข้อมูลไวSanDisk รุ่น Ultra Dual Drive Go เป็นแฟลชไดร์ฟอินเตอร์เฟซแบบ 2 in 1 ที่โดดเด่นด้วยดีไซน์น่ารัก มีสีสันโทนพาสเทลให้เลือกใช้งานด้วยกัน 4 สี ได้แก่ สีชมพู สีเขียว สีน้ำเงินนาวี และสีดำ ที่ดูสวยงาม เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย มีน้ำหนักเบา ขนาดกะทัดรัด พกพาได้สะดวก แถมมีความจุให้เลือกใช้งานตั้งแต่ขนาด 32 GB – 512 GB และอินเตอร์เฟซทั้งแบบ USB Type-A และ Type-C ซึ่งทั้งสองส่วนเป็น USB 3.1 Gen.1 ทำให้สามารถโอนถ่ายข้อมูลทุกประเภทได้อย่างรวดเร็ว

 

4. Kingston รุ่น DataTraveler 80

7 Flash Drive OTG ยี่ห้อไหนดี ราคาถูก ถ่ายโอนข้อมูลไวKingston รุ่น DataTraveler 80 เป็นรุ่นที่ถูกพัฒนามาจากรุ่น DataTraveler 70 และสิ่งที่ต่างไปจากรุ่นก่อนอย่างเห็นได้ชัดเลยก็คือตัวดีไซน์ ซึ่งจะมีขนาดที่เล็กลง และมีน้ำหนักเพียงแค่ 4 กรัม เท่านั้น พร้อมห่วงสำหรับคล้องกุญแจอีกด้วย รุ่นนี้จะใช้อินเตอร์เฟซ USB Type-C 3.2 Gen.1 สามารถโอนถ่ายข้อมูลได้อย่างรวดเร็วทุกประเภทไฟล์ เป็นการอ่าน 200 MB/s และเขียน 60 MB/s เหมาะสำหรับคนที่มีข้อมูลที่ต้องโอนถ่ายตลอดเวลา อีกทั้งยังมีความจุให้เลือกใช้งานตั้งแต่ขนาด 32 GB – 256 GB

 

5. SanDisk รุ่น iXpand™ Flash Drive Flip

7 Flash Drive OTG ยี่ห้อไหนดี ราคาถูก ถ่ายโอนข้อมูลไวSanDisk รุ่น iXpand™ Flash Drive Flip แฟลชไดร์ฟที่มาพร้อมดีไซน์หรูหรา พร้อมอินเตอร์เฟซแบบ 2 in 1 ซึ่งก็คือ USB Type-A 3.0 และ Lightning ที่เพิ่มความหลากหลายในการรับ-ส่งข้อมูลได้มากขึ้น โดยรุ่นนี้จะมีความจุให้ได้เลือกใช้ตั้งแต่ขนาด 64 GB , 128 GB และ 256 GB มีฝาปิดเพื่อช่วยป้องกันฝุ่น โดยฝาปิดจะเป็นฝาแบบ Flip ที่เลือกปิดฝั่งใดฝั่งหนึ่งได้ ทำให้ดูทันสมัย และที่สำคัญคือสามารถตั้งรหัสผ่านในการเข้าถึงไฟล์ในแฟลชไดร์ฟได้ด้วย

 

6. SanDisk รุ่น iXpand® Flash Drive Luxe

7 Flash Drive OTG ยี่ห้อไหนดี ราคาถูก ถ่ายโอนข้อมูลไวSanDisk รุ่น iXpand® Flash Drive Luxe เรียกว่าเป็นแฟลชไดร์ฟ OTG ที่ใช้งานได้อย่างคุ้มค่าเลยก็ว่าได้ มาพร้อมอินเตอร์เฟซแบบ 2 in 1 ทั้งแบบ Type-C และแบบ Lightning มีความจุให้เลือกใช้งานด้วยกัน 3 ขนาด ซึ่งก็คือ 64 GB , 128 GB และสูงสุด 256 GB สามารถถ่ายโอนข้อมูลต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว ตัวแฟลชไดร์ฟสามารถหมุนหัวเพื่อใช้งานพอร์ตด้านใดด้านหนึ่งได้ และมีปลอกสำหรับปิดที่นอกจากจะช่วยกันฝุ่นแล้ว ยังช่วยป้องกันไม่ให้หัวพอร์ตได้รับการกระแทกอีกด้วย

 

7. SanDisk Ixpand Flash Drive Go

7 Flash Drive OTG ยี่ห้อไหนดี ราคาถูก ถ่ายโอนข้อมูลไวSanDisk Ixpand Flash Drive Go เป็นเทคโนโลยี USB 3.0 ที่มาพร้อมพอร์ต USB Type-A และพอร์ต Lightning สามารถเชื่อมต่อได้หลากหลายอุปกรณ์ มีพื้นที่ในการจัดเก็บข้อมูลขนาด 256 GB และถูกออกแบบมาเพื่อให้สามารถหมุนขั้วเพื่อนำมาปิดส่วนพอร์ตได้ ช่วยป้องกันความเสียหายต่อพอร์ต แถมยังมีระบบรักษาความปลอดภัยที่เป็นส่วนตัวขณะแชร์ไดร์ฟด้วยการตั้งรหัสผ่านอีกด้วย

 

สรุป

Flash Drive OTG ถือเป็นอุปกรณ์ที่ตอบโจทย์ในยุคดิจิทัลยุคใหม่ได้เป็นอย่างดี เพราะสามารถนำไปใช้กับสมาร์ทโฟนได้อย่างสบาย ๆ และมีความยืดหยุ่นในการทำงานที่ค่อนข้างมากกว่าแฟลชไดร์ฟทั่วไป ในเรื่องของการเชื่อมต่อพอร์ต ระบบ Android จะเป็นพอร์ต USB Type-C ส่วน Apple จะเป็นพอร์ต Lightning บางรุ่นสามารถทำการตั้งรหัสผ่านในการเข้าถึงไฟล์ได้ด้วย

 

* เนื้อหาในบทความอาจมีผิดพลาดได้ โปรดตรวจสอบข้อมูลใหม่อีกครั้ง