sd card sandisk เป็นที่นิยมอย่างมากในหมู่ผู้ใช้กล้องและคนทำงานด้านโปรดักชั่น เชื่อว่าหลายคนคงเข้าใจถึงความแตกต่างระหว่าง SD Card ทั้ง 3 สีแล้ว แต่ก็เชื่อว่ายังมีอีกหลายคนที่อาจยังไม่รู้ และสงสัยว่าการ์ดแต่ละสีนั้นมีความแตกต่างกันอย่างไร และควรเลือกใช้งานแบบไหน บทความนี้เราจะช่วยสรุปข้อมูลและอธิบายถึงความต่างของการ์ดทั้ง 3 สี ให้แบบเข้าใจง่าย ๆ
ความแตกต่างของ sd card sandisk ทั้ง 3 สี
1. SanDisk Ultra สีเทา
SanDisk Ultra สีเทา เหมาะสำหรับมือใหม่ที่เริ่มหัดเล่นกล้อง หรือผู้ใช้กล้องที่มีฟังก์ชั่นการรองรับ sd card และวิดีโอที่มีความละเอียดระดับ Full HD (1080p) ซึ่งเป็นขีดจำกัดของการ์ดรุ่นนี้ โดยการใช้งานกล้อง DSLR Full Frame บางครั้งอาจพบปัญหาที่การ์ดไม่สามารถใช้งานร่วมกับกล้องได้ ซึ่งข้อมูลได้ระบุว่า SD Card รุ่นนี้รองรับการใช้งานกับอุปกรณ์ที่รองรับ SDHC / SDXC และ SDHC-I / SDXC-I UHS-I ดังนั้น หากใครที่กำลังพิจารณาเลือกซื้อ SD Card รุ่นนี้ ควรตรวจสอบความเข้ากันได้กับกล้องที่ใช้ด้วย
ข้อดีของ SanDisk Ultra สีเทา
- ราคาถูก
- จัดเก็บได้สูงสุด 128 GB
- ความละเอียดของภาพและวิดีโอแบบ Full HD
- โอนถ่ายข้อมูลด้วยความเร็ว 80 MB / วินาที
- กู้ข้อมูลที่เผลอลบกลับมาได้ด้วย RescuePRO® Deluxe
2. SanDisk Extreme สีทอง
SanDisk Extreme สีทอง ถือเป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายภาพและทำงานในด้านนี้ ซึ่งสามารถใช้งานได้อย่างหลากหลาย ด้วยคุณสมบัติเด่นในด้านของความเร็วในการอ่านและโอนถ่ายไฟล์ ช่วยให้การส่งต่องานไปยังฝ่ายต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังตอบโจทย์สำหรับการถ่ายภาพต่อเนื่องได้อย่างลื่นไหล รวมถึงรองรับการบันทึกวิดีโอความละเอียดระดับ 4K ได้อย่างดีเยี่ยม การ์ดรุ่นนี้ถือเป็นตัวเลือกที่ลงตัวและเหมาะสำหรับใช้งานในทุกด้าน อีกทั้งยังมีราคาที่เข้าถึงได้ง่าย แต่แนะนำให้เลือกซื้อรุ่นที่มีความจุ 64 GB ขึ้นไป เพื่อความคุ้มค่ามากที่สุด
ข้อดีของ SanDisk Extreme สีทอง
- จัดเก็บได้สูงสุด 256 GB
- ความละเอียดของภาพและวิดีโอแบบ 4K UHD
- โอนถ่ายข้อมูลด้วยความเร็ว 150 MB / วินาที
- บันทึกไฟล์ระดับ UHS Speed Class 3
- ถ่ายภาพต่อเนื่องได้เต็มประสิทธิภาพ
- กู้ข้อมูลที่เผลอลบกลับมาได้ด้วย RescuePRO® Deluxe
3. SanDisk Extreme Pro สีดำ
SanDisk Extreme Pro สีดำ เป็นการ์ดที่มีราคาสูงที่สุด แต่ก็มาพร้อมประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยม ซึ่งจะมีคุณสมบัติโดยรวมที่คล้ายกับรุ่นสีทอง แต่ถือเป็นเวอร์ชั่นที่ถูกอัปเกรดขึ้น โดยสิ่งที่โดดเด่นของการ์ดรุ่นนี้คือ ฟังก์ชั่นกู้คืนข้อมูลย้อนหลังได้ถึง 2 ปี ช่วยลดความกังวลเรื่องการลบไฟล์โดยไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งการมี External HDD สำรองไว้นั้นยังถือเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า ประสิทธิภาพของการ์ดรุ่นนี้น่าประทับใจทั้งในด้านการใช้งานและความเร็วในการโอนถ่ายข้อมูล เรียกได้ว่าไม่มีที่ติ จะมีก็แค่ราคาที่ค่อนข้างสูง แต่ยังอยู่ในระดับที่สามารถเอื้อมถึงได้ เหมาะสำหรับคนที่ทำงานสายโปรดักชั่น หรือถ่ายรูปแบบจริงจัง สามารถใช้งานได้อย่างหลากหลาย
ข้อดีของ SanDisk Extreme Pro สีดำ
- จัดเก็บได้สูงสุด 1 TB
- ความละเอียดวิดีโอแบบ 4K UHD
- ความเร็วในการอ่านอยู่ที่ 90 MB / วินาที
- โอนถ่ายข้อมูลด้วยความเร็ว 170 MB / วินาที
- บันทึกไฟล์ระดับ UHS Speed Class 3
- ถ่ายภาพต่อเนื่องได้เต็มประสิทธิภาพ
- กู้ข้อมูลที่เผลอลบกลับมาได้ด้วย RescuePRO® Deluxe ในระยะเวลา 2 ปี
ข้อเสียของ SanDisk Extreme Pro สีดำ
- ราคาสูงที่สุด
สรุป
SanDisk ได้ออกแบบ sd card sandisk แต่ละสีมาให้เหมาะกับการใช้งานที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะใช้งานทั่วไป หรือใช้แบบมืออาชีพ การเลือกการ์ดที่เหมาะสมจะช่วยให้การเก็บข้อมูลของเรานั้นมีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่อย่าลืมตรวจสอบคุณสมบัติของการ์ดแต่ละรุ่นก่อนตัดสินใจซื้อ เพื่อให้มั่นใจและตอบโจทย์การ์ดที่ดีที่สุดสำหรับการใช้งานของเรา
* เนื้อหาในบทความอาจมีผิดพลาดได้ โปรดตรวจสอบข้อมูลใหม่อีกครั้ง