Wi-Fi ลื่นปรื๊ด ต้องเป็น Router เร้าเตอร์ASUS

Router เร้าเตอร์ASUS

เคยเจอปัญหาแบบนี้กันไหม กำลังดูซีรีส์ที่พีคสุดๆ อยู่ดีๆ ภาพก็หมุนติ้วๆ หรือกำลังเล่นเกมออนไลน์กับเพื่อนอย่างเมามันส์ Ping ก็พุ่งปรี๊ดจนโดนด่าว่า “กาก” หรือแย่กว่านั้นคือกำลังประชุมงานสำคัญผ่านวิดีโอคอล แล้วภาพก็ค้าง เสียงก็ขาดๆ หายๆ ปัญหาเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องตลกเลย เพราะมันกวนใจและทำให้เราเสียเวลาไปกับเรื่องไม่เป็นเรื่องได้ง่ายๆ และรู้ไหมว่าต้นตอของปัญหาส่วนใหญ่ไม่ได้มาจากผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตเสมอไปนะ แต่มันมาจากเจ้าอุปกรณ์ตัวเล็กๆ ที่เรียกว่า Router หรือ เร้าเตอร์ ที่เราใช้กันอยู่นั่นแหละ และถ้าพูดถึงเรื่อง Router ที่ตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลายและให้ประสิทธิภาพที่เหนือกว่าใคร ก็ต้องนึกถึงแบรนด์ ASUS เป็นอันดับแรกเลย

บทความนี้จะพาไปเจาะลึกถึงเบื้องหลังความเทพของ Router เร้าเตอร์ASUS ว่าทำไมมันถึงกลายเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ ของเหล่าเกมเมอร์ สตรีมเมอร์ หรือแม้แต่คนที่ใช้งานทั่วไปที่ต้องการความเสถียรของสัญญาณ Wi-Fi แบบไม่มีสะดุด

ถอดรหัสชื่อรุ่น Router ASUS เลือกยังไงให้ตรงตามความต้องการ

ก่อนจะไปดูว่าทำไม Router เร้าเตอร์ASUS ถึงดีกว่า เรามาทำความรู้จักกับชื่อรุ่นของมันกันก่อน เพราะแค่ดูชื่อรุ่นก็พอจะเดาได้แล้วว่ามันมีฟีเจอร์อะไรเด็ดๆ ซ่อนอยู่บ้าง

• RT (ASUS Router) อันนี้เป็นรุ่นพื้นฐานสำหรับใช้งานทั่วไปในบ้าน หรือโฮมออฟฟิศ สเปกจะหลากหลายตามราคา ถ้าเป็นรุ่นใหม่ๆ ก็รองรับ Wi-Fi 6 แล้วนะ
• TUF Gaming ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าสำหรับสายเกมมิ่งโดยเฉพาะ แต่เป็นเกมมิ่งแบบไม่หวือหวามากนัก เน้นความทนทาน เสถียร และใช้งานได้ยาวๆ
• ROG (Republic of Gamers) อันนี้คือตัวท็อปสำหรับเหล่าเกมเมอร์ตัวจริง ที่ต้องการประสิทธิภาพสูงสุด ฟีเจอร์จัดเต็ม ดีไซน์ดุดันราวกับยานอวกาศ
• ZenWiFi เป็นระบบ Mesh Wi-Fi ที่ออกแบบมาเพื่อกระจายสัญญาณให้ครอบคลุมทั้งบ้าน หรือพื้นที่ขนาดใหญ่ หมดปัญหา Wi-Fi อับสัญญาณไปเลย
• ExpertWiFi ซีรีส์สำหรับธุรกิจขนาดเล็กถึงขนาดกลาง หรือคนที่ต้องการความสามารถในการจัดการเครือข่ายที่ซับซ้อนขึ้น เน้นความปลอดภัยและเสถียรเป็นพิเศษ

แค่ดูชื่อรุ่นก็พอจะเห็นแล้วว่า ASUS มี Router ให้เลือกตอบโจทย์ทุกความต้องการจริงๆ ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร หรือใช้งานแบบไหน ก็มีรุ่นที่ใช่สำหรับคุณเสมอ

เทคโนโลยี Wi-Fi 6E และ Wi-Fi 7 ทำไมต้องสนใจ?

ถ้าใครกำลังจะซื้อ Router เร้าเตอร์ASUS ใหม่ ก็คงจะเคยได้ยินคำว่า Wi-Fi 6 หรือ Wi-Fi 6E มาบ้าง แต่รู้ไหมว่าตอนนี้ Wi-Fi 7 ก็กำลังจะมาแล้วนะ มาดูกันว่าเทคโนโลยีพวกนี้มันดีกว่า Wi-Fi 5 ที่เราใช้กันอยู่ยังไงบ้าง

• Wi-Fi 6 (802.11ax) นี่คือมาตรฐานที่พัฒนาต่อยอดมาจาก Wi-Fi 5 ที่เราคุ้นเคยกัน มันไม่ได้แค่เพิ่มความเร็วให้แรงขึ้นเท่านั้นนะ แต่ยังเน้นเรื่องประสิทธิภาพในการจัดการอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อพร้อมกันจำนวนมากๆ ให้ดีขึ้นด้วย ด้วยเทคโนโลยี OFDMA และ MU-MIMO ทำให้การรับส่งข้อมูลมีประสิทธิภาพมากขึ้น ลดความแออัดของสัญญาณ ทำให้ Ping ไม่สูงแม้จะมีอุปกรณ์เชื่อมต่อเยอะๆ
• Wi-Fi 6E อันนี้คือการต่อยอดที่เจ๋งกว่า Wi-Fi 6 ขึ้นไปอีกขั้น! โดยเพิ่มย่านความถี่ใหม่เข้ามาคือ 6 GHz ซึ่งเป็นย่านที่ยังไม่มีอุปกรณ์ไหนใช้เลย ทำให้ย่านนี้โล่งมากๆ ไร้คลื่นรบกวน ทำให้ได้ความเร็วที่สูงกว่าและ Ping ที่ต่ำกว่า Wi-Fi 6 ธรรมดามากๆ เหมาะกับการสตรีมมิ่ง 4K/8K หรือเล่นเกม VR ที่ต้องการความหน่วงต่ำที่สุด
• Wi-Fi 7 (802.11be) นี่คืออนาคตที่กำลังจะมาถึง มันจะมาพร้อมกับเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ทำให้ความเร็วในการรับส่งข้อมูลสูงขึ้นไปอีกหลายเท่าตัว และมี Latency ที่ต่ำจนแทบไม่รู้สึก ทำให้การใช้งานแบบเรียลไทม์เป็นไปได้อย่างราบรื่นสุดๆ

Router เร้าเตอร์ASUS หลายรุ่น โดยเฉพาะรุ่นใหม่ๆ อย่างพวก ROG หรือ ZenWiFi ก็เริ่มรองรับ Wi-Fi 6E หรือ Wi-Fi 7 แล้วนะ ซึ่งนี่คือสิ่งที่บ่งบอกว่า ASUS ให้ความสำคัญกับการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อตอบโจทย์อนาคตจริงๆ

ฟีเจอร์ลับที่หลายคนไม่รู้แต่มีประโยชน์สุด ๆ

นอกจากเรื่องสเปกและความเร็วแล้ว Router เร้าเตอร์ASUS ยังมีฟีเจอร์เด็ดๆ ที่หลายคนอาจจะยังไม่รู้ซ่อนอยู่ ซึ่งฟีเจอร์เหล่านี้แหละที่ทำให้ Router ASUS ไม่ได้เป็นแค่ Router ธรรมดาๆ

• AiMesh ฟีเจอร์นี้สำหรับคนที่ต้องการกระจายสัญญาณ Wi-Fi ให้ครอบคลุมทั่วบ้าน หรือพื้นที่ขนาดใหญ่มากๆ โดยที่ไม่ต้องเปลี่ยน Router ใหม่หมด คุณสามารถนำ Router ASUS รุ่นอื่นๆ มาต่อพ่วงกับ Router ตัวหลัก เพื่อสร้างเป็นระบบ Mesh Wi-Fi ที่มีชื่อ Wi-Fi เดียวกัน ทำให้คุณเดินไปไหนในบ้านก็ยังคงเชื่อมต่อกับสัญญาณ Wi-Fi ที่ดีที่สุดโดยอัตโนมัติ ไม่ต้องมานั่งเปลี่ยนชื่อ Wi-Fi เองให้ยุ่งยาก
• AiProtection Pro นี่คือระบบรักษาความปลอดภัยเครือข่ายระดับองค์กรที่ ASUS ใส่มาให้ใน Router รุ่นกลางถึงรุ่นสูงๆ มันจะช่วยป้องกันอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกับเครือข่ายของคุณจากมัลแวร์ ไวรัส และการโจมตีทางไซเบอร์ต่างๆ ได้แบบเรียลไทม์ ทำให้คุณมั่นใจได้ว่าข้อมูลส่วนตัวของคุณจะปลอดภัย
• Game Boost สำหรับสายเกมเมอร์ นี่คือฟีเจอร์ที่ต้องมีเลย! Game Boost จะช่วยจัดลำดับความสำคัญของแพ็กเก็ตข้อมูลจากเกมให้ส่งไปถึงเซิร์ฟเวอร์ก่อนแพ็กเก็ตอื่นๆ ทำให้ลด Ping และ Latency ในการเล่นเกมได้เยอะมากๆ
• Adaptive QoS QoS หรือ Quality of Service คือการจัดลำดับความสำคัญของแพ็กเก็ตข้อมูล ถ้าคุณเป็นคนชอบดูหนัง หรือสตรีมมิ่ง ก็สามารถตั้งค่าให้ Router จัดลำดับความสำคัญของแพ็กเก็ตข้อมูลที่มาจากการสตรีมมิ่งให้สูงกว่าการดาวน์โหลดไฟล์ขนาดใหญ่ได้ ทำให้การดูหนังไม่สะดุดแม้จะมีคนอื่นในบ้านกำลังดาวน์โหลดไฟล์อยู่ก็ตาม

ฟีเจอร์เหล่านี้ไม่ได้เป็นแค่กิมมิค แต่เป็นฟีเจอร์ที่ช่วยแก้ปัญหาที่คนส่วนใหญ่เจอจริงๆ ทำให้การใช้งานอินเทอร์เน็ตของคุณราบรื่นและมีประสิทธิภาพมากขึ้นเยอะเลย

Router ASUS ตัวไหนเหมาะกับคุณ?

มาถึงคำถามสำคัญที่ทุกคนอยากรู้แล้วว่า “แล้วควรเลือกซื้อ Router เร้าเตอร์ASUS ตัวไหนดี?” คำตอบคือมันขึ้นอยู่กับการใช้งานของคุณเลยนะ เรามาดูกันเป็นเคสๆ ไปเลยดีกว่า

• สำหรับคนใช้งานทั่วไปในบ้าน เน้นดูหนัง ฟังเพลง เล่นโซเชียล มีอุปกรณ์เชื่อมต่อไม่เกิน 10 เครื่อง และพื้นที่ไม่กว้างมากนัก แนะนำให้เลือกรุ่น RT-AX5x หรือ RT-AX8x series ซึ่งเป็น Router Wi-Fi 6 ที่ราคาไม่แพงมาก แต่ได้ประสิทธิภาพที่คุ้มค่าแล้ว
• สำหรับเกมเมอร์ตัวจริง หรือสตรีมเมอร์ ต้องการ Ping ต่ำ ความเร็วสูง และเสถียรที่สุด แนะนำให้เลือกรุ่น ROG หรือ TUF Gaming series ที่มาพร้อมกับฟีเจอร์ Game Boost และสเปกที่แรงจัดเต็ม รับรองว่าตอบโจทย์แน่นอน
• สำหรับบ้านที่มีหลายชั้น หรือพื้นที่กว้างๆ มีปัญหา Wi-Fi อับสัญญาณในบางจุด แนะนำให้เลือกรุ่น ZenWiFi series ที่เป็นระบบ Mesh Wi-Fi ซึ่งสามารถกระจายสัญญาณให้ครอบคลุมทั้งบ้านได้อย่างง่ายดาย
• สำหรับธุรกิจขนาดเล็ก ต้องการความปลอดภัยสูง และความสามารถในการจัดการเครือข่ายที่ซับซ้อน แนะนำให้เลือกรุ่น ExpertWiFi series ที่ออกแบบมาเพื่อธุรกิจโดยเฉพาะ

นี่เป็นเพียงแนวทางเบื้องต้นในการเลือกซื้อเท่านั้นนะ เพราะ Router เร้าเตอร์ASUS มีหลายรุ่นหลายราคาให้เลือกเยอะแยะมากมาย แต่เชื่อเถอะว่าไม่ว่าคุณจะเลือกรุ่นไหน คุณก็จะได้ Router ที่มีคุณภาพและประสิทธิภาพที่คุ้มค่ากับราคาแน่นอน

คำถามที่พบบ่อย

• Router ASUS มีอายุการใช้งานนานแค่ไหน? อายุการใช้งานโดยทั่วไปของ Router จะอยู่ที่ประมาณ 3-5 ปีแต่ถ้าเป็น Router ASUS ที่มีคุณภาพสูงและเทคโนโลยีที่ทันสมัย อาจจะใช้งานได้นานกว่านั้น แต่ก็แนะนำว่าทุกๆ 3-5 ปี ก็ควรจะพิจารณาอัปเกรด Router ใหม่ เพราะเทคโนโลยีมันไปเร็วมากจริงๆ
• จำเป็นต้องซื้อ Router Wi-Fi 6E ไหม? ถ้าคุณมีอุปกรณ์ที่รองรับ Wi-Fi 6E และต้องการความเร็วสูงสุดจริงๆ หรืออยู่ในพื้นที่ที่มีคลื่นรบกวนเยอะๆ การลงทุนกับ Router Wi-Fi 6E ก็ถือว่าคุ้มค่ามาก แต่ถ้าอุปกรณ์ของคุณยังไม่รองรับทั้งหมด และไม่ได้ต้องการความเร็วขนาดนั้น Router Wi-Fi 6 ธรรมดาก็ยังถือว่าดีและเพียงพอต่อการใช้งานในปัจจุบันแล้ว
• Router ASUS สามารถใช้กับผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตเจ้าไหนก็ได้ใช่ไหม? ใช่เลย! Router เร้าเตอร์ASUS สามารถใช้ได้กับผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตทุกเจ้าในไทยเลย เพราะมันรองรับมาตรฐาน PPPoE ที่เป็นมาตรฐานทั่วไปอยู่แล้ว เพียงแค่คุณนำ Router ตัวเก่าที่ผู้ให้บริการให้มามาต่อเข้ากับ Router ASUS เพื่อให้ Router ASUS ทำหน้าที่เป็นตัวกระจายสัญญาณ Wi-Fi แทนก็เรียบร้อย

หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจถึงความดีงามของ Router เร้าเตอร์ASUS มากขึ้น และสามารถตัดสินใจเลือกซื้อ Router ที่ใช่สำหรับคุณได้อย่างมั่นใจมากขึ้น เพราะการลงทุนกับ Router ดีๆ สักตัวก็เหมือนกับการลงทุนกับความสุขและความราบรื่นในการใช้งานอินเทอร์เน็ตของเรานั่นเอง