ในยุคดิจิทัลที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เทคโนโลยีการแสดงผลยังคงพัฒนาไปอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นในด้านคุณภาพของภาพ ความเร็ว และความหลากหลายในการใช้งาน โดยมาตรฐาน DisplayPort 2.1 ได้กลายเป็นอีกก้าวสำคัญที่ช่วยยกระดับเทคโนโลยีการแสดงผล ในบทความนี้ Vnix จะพาเพื่อน ๆ ทุกคนมาทำความรู้จัก และศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับมาตรฐาน DisplayPort 2.1 ให้ได้เข้าใจกัน
DisplayPort 2.1 คืออะไร ?
DisplayPort 2.1 คือ มาตรฐานเวอร์ชั่นล่าสุดของเทคโนโลยี DisplayPort ซึ่งถือเป็นการอัปเกรดครั้งสำคัญ ที่ไม่มีอุปกรณ์ไหนเคยใช้มาตรฐาน DisplayPort 2.0 มาก่อน จากข้อมูลของสมาคมมาตรฐานอิเล็กทรอนิกส์วิดีโอ (Video Electronics Standards Association – VESA) ซึ่งเป็นผู้ดูแลมาตรฐาน DisplayPort ได้ชี้แจงว่า DisplayPort 2.0 นั้นถูกข้ามไปโดยตรง ดังนั้น DisplayPort 2.1 จึงเป็นเวอร์ชั่นแรกที่นำสิ่งที่พัฒนาขึ้นใน DisplayPort 2.0 มาใช้ พร้อมทั้งเพิ่มคุณสมบัติใหม่ อย่างการปรับปรุงมาตรฐานสาย DisplayPort , ความเร็วสูง และการผสานโปรโตคอล DisplayPort เข้ากับ USB Type-C ให้ดีขึ้น
DisplayPort มีกี่ระดับ
มาตรฐาน DisplayPort 2.1 ถูกแบ่งออกเป็น 3 ระดับ ตาม Bandwidth สูงสุดที่แตกต่างกันไป ซึ่งจะประกอบด้วย UHBR10 , UHBR13.5 และ UHBR20
UHBR หรือ Ultra-High-Bit-Rate ซึ่งระบุ Bandwidth สูงสุดต่อช่องข้อมูล โดยมาตรฐาน DisplayPort รองรับสี่ช่องข้อมูล ซึ่ง Bandwidth รวมสำหรับแต่ละระดับจึงสามารถคำนวณเป็น Gbps ได้โดยการคูณค่า Bandwidth ต่อช่องด้วย 4 อย่างไรก็ตาม Bandwidth รวมนี้ไม่ใช่อัตราการส่งข้อมูลสูงสุดที่ DisplayPort 2.1 ในแต่ละระดับสามารถรองรับได้ เนื่องจากส่วนหนึ่งของแบนด์วิดท์จะถูกใช้สำหรับกิจกรรมอื่น ๆ เช่น การเข้ารหัสข้อมูลต่าง ๆ ดังนั้น อัตราการส่งข้อมูลสูงสุดของแต่ละระดับจะต่ำกว่าค่าแบนด์วิดท์สูงสุดที่ระบุไว้
DisplayPort 2.1 | Bandwidth | อัตราการส่งข้อมูล |
UHBR10 | 40 Gbps | 38.69 Gbps |
UHBR13.5 | 54 Gbps | 52.22 Gbps |
UHBR20 | 80 Gbps | 77.37 Gbps |
จากตาราง เราจะเห็นได้ว่า แม้แต่ระดับ Bandwidth ที่ช้าที่สุดอย่าง UHBR10 ในมาตรฐาน DisplayPort 2.1 ก็ยังมีความเร็วที่สูงกว่า DisplayPort 1.4 ประมาณ 20% ซึ่งเพียงพอสำหรับการรองรับความละเอียด 4K ที่ 240 Hz พร้อมสีแบบ 10 บิต และเทคโนโลยีการบีบอัดสัญญาณภาพแบบไร้การสูญเสีย (DSC) หรือความละเอียด 1440p ที่ 500 Hz พร้อมสีแบบ 10 บิต และ DSC ได้
คุณสมบัติของ DisplayPort
-
-
-
-
Bandwidth และความละเอียด
-
-
-
ด้วย Bandwidth ขนาด 80 Gbps ทำให้ DisplayPort 2.1 รองรับการแสดงผลด้วยคุณภาพที่สูงขึ้นมากกว่าเดิม โดยสามารถทำได้ดังนี้
- ความละเอียด 16K (15,360 x 8,460) 1 จอ ที่ 60 Hz 4:4:4 HDR (DSC)
- ความละเอียด 8K (7,680 x 4,320) 2 จอ ที่ 120 Hz 4:4:4 HDR (DSC)
- ความละเอียด 10K (3,840 x 2,160) 3 จอ ที่ 60 Hz 4:4:4 HDR (DSC)
-
-
-
-
UHBR 20
-
-
-
DisplayPort 2.1 รองรับอัตราการส่งข้อมูลสูงสุดถึง 80 Gbps ด้วยเทคโนโลยีใหม่ UHBR 20 ซึ่งสามารถรับ-ส่งข้อมูลได้สูงสุด 20 กิกะบิตต่อวินาที สร้างความก้าวหน้าอย่างมากจาก UHBR 13 ในเวอร์ชั่นก่อนที่รองรับเพียง 10 กิกะบิตต่อช่อง
-
-
-
-
High Dynamic Range (HDR)
-
-
-
HDR ช่วยให้จอแสดงผลสามารถแสดงช่วงความสว่างได้กว้างขึ้นหากเทียบกับช่วงไดนามิกมาตรฐาน (SDR) แบบดั้งเดิม ทำให้ภาพดูสมจริงขึ้น ด้วยความแตกต่างที่ชัดเจนระหว่างจุดที่สว่างที่สุด และมืดที่สุด อย่างเกม , ภาพยนตร์ หรือภาพถ่าย โดยจะดูโดดเด่นเป็นพิเศษเมื่อใช้ HDR โดยเฉพาะในฉากที่มีเนื้อหาอย่างฉากระเบิด , พระอาทิตย์ขึ้น หรือแสงจากไฟฉาย
DisplayPort 2.1 รองรับโปรไฟล์ HDR10 สามารถเข้ารหัสสีได้ถึง 10 บิตต่อช่อง (แดง , เขียว , น้ำเงิน) รวมเป็น 30 บิตต่อพิกเซล และมี Bandwidth ที่เพียงพอสำหรับใช้งาน HDR10 ที่ความละเอียด 4K 120 Hz หรือ 8K 60 Hz ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
-
-
-
-
Display Stream Compression (DSC)
-
-
-
เพื่อควบคุมอุณหภูมิที่เกิดจากการส่งข้อมูลจำนวนมหาศาลผ่านสาย DisplayPort ให้ไม่สูงจนเกินไป DisplayPort 2.1 จึงใช้มาตรฐานการบีบอัดข้อมูล Display Stream Compression (DSC) ซึ่งถูกพัฒนาโดย VESA ขึ้นมา
DSC ทำงานโดยการบีบอัดข้อมูลแบบ Lossless ที่ไม่สูญเสียคุณภาพจนมนุษย์สามารถสังเกตเห็นได้ โดยสามารถลดขนาดข้อมูลได้สูงสุดในอัตรา 3:1 ทำให้รองรับความละเอียดและอัตราการรีเฟรชที่สูงขึ้นได้ ซึ่งกระบวนการบีบอัดจะดำเนินการในเบื้องหลังโดยไม่ต้องการการปรับแต่งจากผู้ใช้งาน
-
-
-
-
เชื่อมต่อหลายหน้าจอ
-
-
-
DisplayPort มีความสามารถที่หลายคนอาจไม่ทราบ นั่นก็คือ การเชื่อมต่อหน้าจอหลายจอผ่านพอร์ตเพียงช่องเดียวด้วยเทคโนโลยีที่เรียกว่า Daisy Chain ด้วย Bandwidth ที่สูง ทำให้การเชื่อมต่อแบบนี้มีประสิทธิภาพที่สูงขึ้นตามไปด้วย สามารถใช้งานจอภาพ 4K สามจอที่อัตรา 90 Hz หรือจอภาพ 8K สองจอที่อัตรา 120 Hz จากพอร์ตเดียว นอกจากนี้ DP 2.1 ยังรองรับการสตรีมวิดีโอจากหลายแหล่งข้อมูลผ่านสายเคเบิลเส้นเดียว ตัวอย่างเช่น การเล่นเกม 4K บนหน้าจอหนึ่ง และเล่นวิดีโอ 1080p บนอีกหน้าจอหนึ่งได้พร้อมกันอย่างราบรื่น
-
-
-
-
สัญญาณเสียงคุณภาพสูง
-
-
-
DisplayPort 2.1 รองรับการส่งสัญญาณเสียงคุณภาพสูง พร้อมวิดีโอ โดยสามารถส่งเสียงที่อัตราการสุ่มตัวอย่างสูงสุด 192 kHz ด้วยความลึกของเสียง 24 บิต อีกทั้งยังเพิ่มการรองรับ USB Type-C Alt Mode ทำให้พอร์ต USB Type-C สามารถส่งสัญญาณวิดีโอและเสียงจาก DisplayPort ได้โดยตรงผ่านสาย USB Type-C ที่กำลังได้รับความนิยมในฐานะโซลูชั่นการเชื่อมต่อแบบสายเดียวที่ครบวงจร
ปัญหาของ DisplayPort
แม้ว่า DisplayPort 2.1 จะเป็นเทคโนโลยีที่น่าสนใจ แต่ก็มีปัญหาหลายอย่างที่ตามมาด้วยเช่นกัน
ปัญหาแรก คือ ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับใบรับรอง DisplayPort 2.1 ไม่จำเป็นต้องรองรับ UHBR ทุกระดับ โดยอุปกรณ์ที่ผ่านเกณฑ์ DisplayPort 2.0 และรองรับ UHBR ก็ถือว่าเป็น DisplayPort 2.1 ได้ ซึ่งหมายความว่า หากเลือกซื้ออุปกรณ์ จำเป็นต้องศึกษาหาข้อมูลอย่างละเอียด เนื่องจากอาจได้อุปกรณ์ที่ฮาร์ดแวร์ไม่รองรับการทำงานของ DisplayPort 2.1 ได้อย่างสมบูรณ์มาใช้งาน
ปัญหาที่สอง คือ หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) ของ NVIDIA รุ่นซีรี่ส์ 4000 ซึ่งในปัจจุบันยังไม่รองรับ DP 2.1 แต่ซีรี่ส์ 5000 จะรองรับในอนาคต ส่วน AMD RDNA 3 และ Intel Arc B580 รองรับ DP 2.1 UHBR 13.5 แล้ว อย่างไรก็ตาม แม้ว่าการ์ดจอจะรองรับ แต่จอแสดงผลที่ใช้ประโยชน์จาก DP 2.1 อย่างจอ 16K HDR ก็ยังไม่มีวางจำหน่ายในปัจจุบันเช่นกัน
สรุป
การพัฒนาเทคโนโลยีเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติในวงการนี้ โดย DisplayPort 2.1 จะรองรับความละเอียดที่สูงขึ้น , อัตราการรีเฟรชที่รวดเร็วขึ้น และ Bandwidth ที่กว้างขึ้น ซึ่งทำให้ DisplayPort 2.1 สามารถเสริมประสิทธิภาพการแสดงผลและการเชื่อมต่อให้พร้อมใช้งานในอนาคตได้อย่างเต็มที่
* เนื้อหาในบทความอาจมีผิดพลาดได้ โปรดตรวจสอบข้อมูลใหม่อีกครั้ง