บทความข่าวสารไอที

External HDD ทำงานช้ากว่าปกติ มีวิธีแก้ไขอย่างไร

External HDD ทำงานช้ากว่าปกติ มีวิธีแก้ไขอย่างไร

หาก External HDD หรือ ฮาร์ดดิสก์พกพา ของเรานั้นเกิดอาการผิดปกติ ทำให้การอ่าน-เขียนข้อมูลช้ากว่าปกติ อาจมีหลายสาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหานี้ได้ ซึ่งในบทความนี้เราจะมาพูดเกี่ยวกับวิธีการแก้ไขของฮาร์ดดิสก์พกพา ที่ทำงานช้ากว่าปกติ และหากไม่ได้เกิดเพราะการเสื่อมสภาพของอุปกรณ์ เพื่อน ๆ สามารถแก้ไขได้ด้วยวิธีที่เราได้นำมาฝากกันในวันนี้

 

External HDD ทำงานช้ากว่า แก้ไขอย่างไร

External HDD ทำงานช้ากว่าปกติ มีวิธีแก้ไขอย่างไร1. จัดเรียงข้อมูลฮาร์ดดิสก์ภายนอก (External HDD)

เมื่อฮาร์ดไดรฟ์มีปัญหา สิ่งแรกที่ควรทำคือ ใช้เครื่องมือ Defragment and Optimize Drives ซึ่งมีอยู่ในระบบปฏิบัติการ Windows โดยสามารถเรียกใช้งานได้ตามวิธีต่อไปนี้

 

        1. คลิกปุ่ม Start แล้วพิมพ์ค้นหาคำว่า Defragment หรือ Optimize
        2. คลิกที่ Defragment and Optimize Drives ที่ปรากฏขึ้น
        3. เลือกไดร์ฟที่มีปัญหา แล้วคลิกที่ Analyze แล้วรอจนกว่ามันจะทำงานเสร็จ
        4. หากมีปัญหา ระบบจะแนะนำให้เราคลิกที่ Optimize

 

2. ใช้คำสั่งตรวจสอบดิสก์ (Check Disk)

หากทำการ Defragment ตัว External HDD แล้วแต่อาการของไดร์ฟยังไม่ดีขึ้น ให้ลองใช้เครื่องมือ Check Disk เพื่อตรวจสอบและแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้นกับฮาร์ดดิสก์ เช่น Bad Sector ซึ่งอาจเป็นสาเหตุของความเสียหายของข้อมูล ซึ่งการใช้คำสั่ง Check Disk นั้นสามารถทำได้ด้วยกัน 2 วิธี ดังนี้

 

วิธีที่ 1

  1. คลิกขวาที่ไดร์ฟผ่าน Windows Explorer แล้วเลือก Properties
  2. ไปที่แท็บ Tools > Error Checking แล้วคลิกที่ Check ตามด้วย Scan Drive

 

วิธีที่ 2

  1. คลิกขวาที่ปุ่ม Start จากนั้นเลือก Windows PowerShell (Admin)
  2. พิมพ์คำสั่ง chkdsk.exe /f(ตามด้วยชื่อไดร์ฟ) ตัวอย่างเช่น หากต้องการเช็คไดร์ฟ G ให้พิมพ์ว่า chkdsk.exe /f g: แล้วกด Enter

 

3. ตรวจสอบว่าฮาร์ดดิสก์เกิดความเสียหายหรือไม่

หากดำเนินการตามทั้ง 2 ขั้นตอน จากข้างต้นแล้วยังไม่เห็นผล เป็นไปได้ว่าปัญหาอาจเกิดจากตัวฮาร์ดดิสก์เอง ในกรณีนี้ จำเป็นต้องตรวจสอบความเสียหาย โดยสามารถสังเกตได้จากหลายปัจจัยต่อไปนี้

 

        • ไฟแสดงสถานะการทำงานติดอยู่หรือไม่
        • คอมพิวเตอร์มีอาการค้างเมื่อพยายามค้นหาไฟล์ในฮาร์ดดิสก์หรือไม่
        • สังเกตว่าฮาร์ดดิสก์มีแรงสั่นจากการหมุนของจานแม่เหล็กหรือไม่ (เฉพาะ HDD)

 

หากไดร์ฟทำงานช้าผิดปกติ หรือมีอาการแปลก ๆ เกิดขึ้น อาจเป็นสัญญาณเตือนว่าฮาร์ดดิสก์เริ่มมีปัญหา ควรรีบเปลี่ยนใหม่โดยเร็วที่สุด อย่ารอจนกว่าจะใช้งานไม่ได้ เพราะการกู้ข้อมูลจากฮาร์ดดิสก์ที่เสียหายแล้วนั้นเป็นเรื่องยาก

 

4. เช็คสภาพสายเชื่อมต่อ

อีกปัจจัยที่อาจทำให้ External HDD ทำงานช้าลง นั่นก็คือ สายเชื่อมต่อ หากฉนวนของสายมีรอยถลอกหรือชำรุด อาจส่งผลให้สายนำสัญญาณภายในเสียหายได้ ควรตรวจสอบทั้งสาย USB และสายจ่ายไฟ (หากมี) เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งสายเหล่านี้จะมีราคาที่ย่อมเยา ควรเปลี่ยนก่อนที่จะส่งผลกระทบต่อการใช้งาน นอกจากนี้ในปัจจุบัน External HDD ส่วนใหญ่มักเชื่อมต่อผ่านพอร์ต USB 3.0 ควรเลือกซื้อสายให้ถูกต้อง และหลีกเลี่ยงการใช้สาย USB 2.0 เพราะอาจทำให้ความเร็วในการอ่าน-เขียนข้อมูลลดลงได้

 

5. ตรวจสอบกิจกรรมที่เกิดขึ้นบนฮาร์ดดิสก์

การคัดลอกไฟล์จำนวนมากจากคอมพิวเตอร์ไปยัง External HDD จะทำให้การทำงานของฮาร์ดดิสก์นั้นช้าลง ตัวอย่างเช่น หากดาวน์โหลดไฟล์จาก Torrent แล้วเก็บไว้บน External HDD จะทำให้มีการดาวน์โหลดและอัพโหลดข้อมูลจำนวนมากตลอดเวลา ส่งผลให้ External HDD ทำงานช้าลงอย่างเห็นได้ชัด

 

ซึ่งในการตรวจสอบกิจกรรมบนฮาร์ดดิสก์นั้น สามารถเช็คได้โดยใช้ Task Manager โดยสามารถเปิดได้โดยกดปุ่ม Ctrl + Shift + Esc หรือจะคลิกขวาที่ Taskbar แล้วเลือก Task Manager ก็ได้ จากนั้นให้สังเกตที่แถบ Disk จะเห็นช้อมูลว่ามีอะไรที่กำลังใช้งานไดร์ฟอยู่บ้าง

 

หากพบว่า Windows Explorer ใช้งานดิสก์ที่สูงมาก อาจเกิดจากการที่กำลังคัดลอกไฟล์ หรืออาจมาจากโปรแกรม Torrent หรือซอฟต์แวร์ตัดต่อรูปภาพและวิดีโอ ซึ่งบางครั้งการเล่นเกมที่ติดตั้งบน External HDD ก็อาจทำให้เกิดปัญหานี้ได้เช่นกัน กิจกรรมเหล่านี้อาจทำให้ External HDD ทำงานช้าลง เราสามารถสั่งปิดการทำงานของโปรแกรมที่ต้องการได้โดยเลือก End Task เพื่อทำการยุติกิจกรรมนั้นได้ทันที

 

6. ปัญหาเกิดจากมัลแวร์

หลายมัลแวร์สามารถทำให้ฮาร์ดดิสก์ทำงานช้าลงอย่างเห็นได้ชัด แต่สามารถแก้ไขได้ไม่ยาก เพียงแค่ทำการสแกนไวรัสในไดร์ฟด้วย Windows Defender โปรแกรมป้องกันไวรัสที่มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Windows

 

7. ปิดการใช้งาน Windows Index

หากรู้สึกว่าเมื่อเชื่อมต่อ External HDD แล้ว ระบบปฏิบัติการ Windows 10 ใช้เวลานานกว่าจะสามารถแสดงผลไฟล์ใน Explorer ได้ สาเหตุอาจเกิดจากการที่ Windows 10 กำลังทำการจัดทำดัชนี (Index) ไฟล์ในไดรฟ์นั้น ซึ่งการทำ Index ไฟล์จะช่วยให้ Windows Search สามารถค้นหาไฟล์จากข้อมูล Metadata ได้ แต่สำหรับบางคนที่ไม่จำเป็นต้องใช้ฟังก์ชั่นนี้ สามารถปิดการทำงานของ Index ได้ โดยทำตามขั้นตอนดังนี้

 

        1. คลิกที่ปุ่ม Start
        2. พิมพ์คำว่า Services เพื่อค้นหา จากนั้นกดที่แอป Services ที่ปรากฏขึ้นมา
        3. ค้นหา Windows Search
        4. คลิกขวา แล้วเลือก Stop
        5. ดับเบิลคลิกที่ Windows Search (ตรงคำว่า Startup Type ให้เลือกเป็น Disabled)

 

สรุป

หากพบว่า External HDD ทำงานช้ากว่าปกติ อย่าเพิ่งตกใจไป เพราะปัญหานี้สามารถแก้ไขได้ง่าย ๆ โดยการเชื่อมต่อกับพอร์ต USB ที่รองรับความเร็วสูง , ล้างพื้นที่เก็บข้อมูล , ซ่อมแซมไฟล์ระบบ หรือแสกนหามัลแวร์ ที่สำคัญคือการเลือกใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีประสิทธิภาพ หากทำตามขั้นตอนเหล่านี้แล้ว External HDD ของเราก็จะกลับมาทำงานได้เร็วขึ้นเหมือนเดิม

 

* เนื้อหาในบทความอาจมีผิดพลาดได้ โปรดตรวจสอบข้อมูลใหม่อีกครั้ง