บทความข่าวสารไอที

Micro SD Card Class 10 รองรับการบันทึกไฟล์วิดีโอความละเอียดสูง

Micro SD Card Class 10 รองรับการบันทึกไฟล์วิดีโอความละเอียดสูง

Micro SD Card Class 10 เรียกได้ว่าเป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่สำคัญอันดับต้น ๆ ในวงการเทคโนโลยีเลยก็ว่าได้ เพราะนอกจากจะใช้เก็บบันทึกข้อมูล รูปภาพและวิดีโอแล้ว เมมโมรี่การ์ดบางรุ่นยังสามารถเสริมประสิทธิภาพการทำงานของแอพพลิเคชั่น และถ่ายโอนข้อมูลได้อีกด้วย ซึ่งในปัจจุบัน เมมโมรี่การ์ดจะมีด้วยกันทั้งหมด 4 ชนิด ได้แก่ Micro SD Card , SD Card , CF Card และ Wi-Fi Card

 

Micro SD Card Class 10 คืออะไร ?

สำหรับคนที่ใช้ Micro SD Card มาจนถึงปัจจุบันอาจยังไม่เข้าใจเรื่อง Class ของตัว Card ว่าคืออะไร สำหรับ Micro SD Card Class 10 นั้น จะเป็น Class ระดับกลางที่มีความเร็วในการส่งผ่านข้อมูลอยู่ที่ 10 mb/s ซึ่งถ้าเป็น Class ที่ต่ำกว่า จะมี 8 , 6 , 4 ตามลำดับลงไป ตัว Micro SD Card Class 10 จะรองรับการบันทึกวิดีโอความละเอียดสูงแบบ Full HD และ 4K รวมถึงรองรับการถ่ายภาพความละเอียดสูง 24 MP แบบ Continue Shot ได้แบบสบาย ๆ ถือเป็น Class ที่มีราคาไม่สูง และจับต้องได้ แม้จะเลือกซื้อความจุที่สูง ๆ ก็ตาม

 

วิธีเลือก Micro SD Card Class 10

1. เลือก Micro SD Card Class 10 ตามความจุที่ต้องการ

ในปัจจุบัน ความจุของ Micro SD Card Class 10 ที่หลายยี่ห้อนิยมผลิต จะมีให้เลือกตั้งแต่ขนาด 2 GB ไปจนถึง 2 TB ซึ่งความจุเหล่านี้จะปรากฏบนตัวการ์ด 2 ตำแหน่ง โดยตำแหน่งแรกจะเป็นตัวอักษรภาษาอังกฤษที่ระบุชนิดของ Micro SD Card ส่วนตำแหน่งที่สองจะเป็นตัวเลขแสดงความจุ

 

หากถามว่า ควรเลือกใช้ความจุเท่าไหร่ แนะนำให้ดูก่อนว่า ลักษณะการใช้งานนั้น หากซื้อมาใช้กับการทำงานเล็ก แนะนำ 16 GB – 32 GB แต่หากต้องการถ่ายภาพนิ่ง แนะนำ 64 GB ขึ้นไป และสำหรับงานวิดีโอหรือสายคอนเท็นต์ ต้องใช้ความจุที่มากกว่า โดยอาจเลือกที่ 64 GB – 256 GB ขึ้นอยู่กับความละเอียดของตัวงาน

 

2. เลือก Micro SD Card Class 10 ตามความเร็ว และประสิทธิภาพการทำงานร่วมกับอุปกรณ์

ระดับความเร็วในการอ่าน-เขียน และถ่ายโอนข้อมูลการ์ด ถือเป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงประสิทธิภาพการทำงานของ Micro SD Card เลยก็ว่าได้ และการที่ Micro SD Card ที่มีความจุเท่ากันแต่ราคากลับต่างกัน นั่นเป็นเพราะความเร็วและประสิทธิภาพการทำงานไม่เท่ากันนั่นเอง

 

ตัวอย่าง : หากต้องการใช้กับสมาร์ทโฟน Class 10 ก็เพียงพอแล้ว แต่หากต้องการทำงานกับแอพพลิเคชั่นต่าง ๆ ด้วย อาจต้องเลือกฟีเจอร์เสริมอย่าง Application Performance Class 2 แต่ถ้าใครทำงานวิดีโอระดับสูง ควรเลือกเป็น Card UHS และ UHS Bus Speed เพื่อให้ถ่ายโอนข้อมูลได้ไวขึ้น

 

3. เลือก Micro SD Card Class 10 จากความละเอียดของวิดีโอ

ความละเอียดของวิดีโอในปัจจุบัน จะมีตั้งแต่ HD ไปจนถึง 8K ซึ่งอุปกรณ์แต่ละชนิดจะใช้งานที่ต่างกัน เช่นเดียวกับ Micro SD Card ที่มีการแบ่ง Class ตามความละเอียดของวิดีโอ เรียกว่า Video Speed Class หรือระดับความเร็วในการเขียนข้อมูลไฟล์วิดีโอ โดยจะมีทั้งหมด 5 Class ซึ่งก็คือ

    • V6
    • V10
    • V30
    • V60
    • V90

 

4. เลือก Micro SD Card Class 10 ให้เหมาะกับการใช้งาน

นอกจากลักษณะการใช้งานแล้ว ควรคำนึงถึงระยะเวลา , ความถี่ในการใช้งาน , สภาพแวดล้อม และคุณภาพของผลงานที่ต้องการด้วย ซึ่งอุปกรณ์ยอดนิยมที่มักนำมาใช้ร่วมกับ Micro SD Card นั้น ได้แก่

 

    • กล้องติดรถยนต์ / กล้องวงจรปิด
      ลักษณะการใช้งานจะเน้นการบันทึกวิดีโอที่รวดเร็ว และต้องบันทึกวนซ้ำอย่างต่อเนื่อง สเปกที่แนะนำควรเป็น Micro SDXC Class 10 ความจุ 32 GB ขึ้นไป
    • สมาร์ตโฟน / แท็บเล็ต
      จะเน้นที่การใช้งานแอพพลิเคชั่นการถ่ายภาพ และถ่ายวิดีโอแบบ HD หรือ Full HD อีกทั้งความจุเครื่องมักแตกต่างกันไป สเปกที่แนะนำจึงควรเป็น Micro SDHC Class 10 ขึ้นไป หากมีการใช้งานแอพพลิเคชั่นที่ต้องใช้ความเร็ว หรือความละเอียดสูง ให้เลือกใช้ A2 จะดีที่สุด
    • กล้องถ่ายภาพ / ถ่ายวิดีโอ 4K
      ลักษณะการใช้งานจะเน้นที่การบันทึกภาพและวิดีโอความละเอียดสูง สเปกที่แนะนำควรเป็น Micro SDXC Class 10 U1 V30 ขึ้นไป
    • กล้องถ่ายภาพระดับโปร หรือถ่ายวิดีโอ 8K / โดรน
      เน้นความเร็วและประสิทธิภาพสูง ซึ่งอุปกรณ์ระดับนี้ หากใช้ Micro SD Card เสียบเข้ากับอะแดปเตอร์จะทำให้ความเร็วในการเขียนและอ่านข้อมูลช้าลง ผู้ใช้อุปกรณ์เหล่านี้จึงควรเลือกใช้ SD Card แทน

แนะนำว่า ให้สังเกตุเครื่องหมาย UHS V30 / V60 ไว้ด้วย เพราะเป็นการแสดงถึงความเร็วในการเขียน ทำให้สามารถโหลดหรือส่งไฟล์ได้เร็วกว่าเดิมโดยที่ไม่ต้องรอนาน ๆ

 

Micro SD Card Class 10 ต่างจาก Class 4 อย่างไร ?

จุดเด่นชัด ๆ เรื่องของความต่างจะเป็น SD Bus Mode ที่ทาง Micro SD Card Class 4 มีความเร็วที่ Normal Speed เท่านั้น หรือไม่เกิน 4 mb/s รองรับการเขียน-อ่านไฟล์ขนาดเล็กทั่วไป และการบันทึก Video ความละเอียด HD ถึง Full HD ซึ่งจะใช้บันทึกภาพนิ่งความละเอียดสูงได้ แต่จะไม่สามารถถ่าย Continuous Shot ได้ เพราะที่ความเร็ว 4 mb/s ถือว่าช้ามาก ๆ กับลักษณะการใช้งานในปัจจุบันที่ทุกอย่างมีขนาดไฟล์ที่ใหญ่มากขึ้น

 

ในขณะเดียวกัน Micro SD Card Class 10 นั้นจะมีความเร็วขั้นต่ำอยู่ที่ 10 mb/s และมี SD Bus Mode อยู่ที่ High Speed เหมาะกับการใช้งานมากกว่าหลายเท่าตัว

 

สรุป

หลังจากที่เราได้รู้จัก Micro SD Card Class 10 กันไปแล้ว หวังว่าหลาย ๆ คนคงจะเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับการใช้งานของตัวเองกันได้มากขึ้น แต่สิ่งสำคัญหลัก ๆ เลยก็คือ ปัจจัยในการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์นั้นไม่ได้ขึ้นอยู่กับสเปกของสินค้าเพียงอย่างเดียว แต่ยังต้องคำนึงถึงอายุการใช้งาน , ความทนทาน และความน่าเชื่อถือของแหล่งซื้อ-ขายด้วย

 

* เนื้อหาในบทความอาจมีผิดพลาดได้ โปรดตรวจสอบข้อมูลใหม่อีกครั้ง