รู้จักกับเครื่องบันทึกภาพ NVR Hilook ทุกอย่างที่ควรรู้เกี่ยวกับระบบบันทึกภาพผ่านเครือข่าย
เครื่องบันทึกภาพ NVR Hilook เป็นหนึ่งในอุปกรณ์ที่มีบทบาทสำคัญในการรักษาความปลอดภัยของบ้านพักอาศัย องค์กร และสถานที่สาธารณะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคที่การใช้งานกล้องวงจรปิดผ่านระบบเครือข่าย IP (Internet Protocol) ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย Hilook ออกแบบ NVR ให้มีประสิทธิภาพสูงและรองรับฟังก์ชันการบันทึกภาพที่ซับซ้อน ทำให้สามารถใช้งานในสถานการณ์ต่าง ๆ ได้อย่างครอบคลุมและมีประสิทธิภาพ
เทคโนโลยีบันทึกภาพด้วยระบบ NVR (Network Video Recorder)
NVR หรือ Network Video Recorder เป็นอุปกรณ์ที่ทำหน้าที่บันทึกภาพและเสียงจากกล้องวงจรปิดโดยเชื่อมต่อกับระบบเครือข่าย อุปกรณ์ NVR ของ Hilook สามารถทำงานร่วมกับกล้อง IP โดยไม่ต้องใช้สายสัญญาณภาพแบบเก่า แต่สามารถใช้สาย LAN ในการเชื่อมต่อข้อมูลผ่านระบบเครือข่ายได้ทันที การบันทึกภาพแบบ NVR สามารถบันทึกข้อมูลได้หลายจุดในเวลาเดียวกัน เหมาะสำหรับสถานที่ที่ต้องการติดตามภาพหลายช่องสัญญาณพร้อม ๆ กัน
ระบบการบีบอัดข้อมูลแบบ H.265+ เพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บข้อมูล
เครื่องบันทึกภาพ NVR Hilook ใช้ระบบการบีบอัดข้อมูลแบบ H.265+ ที่ช่วยลดขนาดของไฟล์วิดีโอ ทำให้สามารถบันทึกข้อมูลได้ยาวนานขึ้นเมื่อเทียบกับระบบบีบอัด H.264 หรือ H.265 ซึ่ง H.265+ สามารถลดแบนด์วิดท์ที่ใช้ในการโอนถ่ายข้อมูลได้โดยไม่กระทบต่อคุณภาพของภาพที่ได้รับ การบีบอัดนี้ทำให้สามารถจัดเก็บข้อมูลได้ยาวนานขึ้นโดยไม่ต้องเพิ่มขนาดฮาร์ดไดรฟ์ นอกจากนี้ยังช่วยลดความจำเป็นในการจัดสรรแบนด์วิดท์ที่สูง ทำให้ภาพคมชัดและมีความละเอียดสูงเหมาะกับการใช้งานในทุกสถานการณ์
คุณสมบัติ PoE (Power over Ethernet) สะดวกต่อการติดตั้ง
เครื่องบันทึกภาพ NVR Hilook รองรับคุณสมบัติ PoE หรือการจ่ายไฟผ่านสาย LAN ที่สามารถส่งทั้งสัญญาณข้อมูลและพลังงานผ่านสายเส้นเดียว PoE นี้ใช้มาตรฐาน IEEE 802.3af หรือ 802.3at ที่สามารถจ่ายไฟได้สูงถึง 30 วัตต์ ซึ่งรองรับกล้อง IP ประเภทต่าง ๆ ที่ต้องการพลังงานเพิ่มเติม เช่น กล้อง PTZ ที่ต้องการพลังงานในการหมุนและปรับเลนส์ การรองรับ PoE ยังช่วยลดปัญหาการเดินสายไฟและความซับซ้อนในการติดตั้ง ทำให้การติดตั้งกล้องในระบบเครือข่ายทำได้ง่ายขึ้นและสะดวกยิ่งขึ้น
ความละเอียดในการบันทึกสูงสุดถึง 4K Ultra HD
เครื่องบันทึกภาพ NVR Hilook รองรับความละเอียดในการบันทึกภาพสูงสุดถึงระดับ 4K Ultra HD (3840×2160 พิกเซล) ซึ่งเหมาะสำหรับสถานที่ที่ต้องการความละเอียดสูง เช่น การติดตามภาพในสถานที่สำคัญ การตรวจสอบการเข้าออก หรือการบันทึกภาพในพื้นที่ที่มีความปลอดภัยสูง การบันทึกภาพระดับ 4K ยังช่วยให้การซูมภาพและการตรวจสอบรายละเอียดทำได้อย่างชัดเจน ลดปัญหาภาพเบลอเมื่อซูมเข้าใกล้ และยังมีประโยชน์ในการเก็บหลักฐานในกรณีเกิดเหตุการณ์สำคัญ
การรองรับหลายช่องสัญญาณเพื่อการติดตั้งที่หลากหลาย
เครื่องบันทึกภาพ NVR Hilook มีรุ่นที่รองรับตั้งแต่ 4 ช่องสัญญาณไปจนถึง 32 ช่องสัญญาณ ซึ่งสามารถเพิ่มจำนวนกล้อง IP ตามความต้องการของผู้ใช้ การรองรับหลายช่องสัญญาณทำให้สามารถจัดการเครือข่ายกล้องหลายตัวพร้อมกันได้ใน NVR เครื่องเดียว ซึ่งช่วยให้การตรวจสอบหลายพื้นที่ในเวลาเดียวกันเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ การรองรับหลายช่องสัญญาณยังช่วยให้ผู้ใช้สามารถติดตั้งกล้องหลายตำแหน่งในสถานที่ขนาดใหญ่หรือในองค์กรได้อย่างสะดวก
ฟังก์ชัน I/O Alarm สำหรับระบบการแจ้งเตือนอัตโนมัติ
เครื่องบันทึกภาพ NVR Hilook มีฟังก์ชัน I/O Alarm Input และ Output ซึ่งใช้สำหรับการเชื่อมต่อกับระบบแจ้งเตือนหรือเซ็นเซอร์ภายนอกที่ทำงานร่วมกันได้ เมื่อเซ็นเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหวหรือการเปิดปิดประตู NVR จะทำการแจ้งเตือนทันทีผ่านแอปพลิเคชันหรืออุปกรณ์เชื่อมต่ออื่น ๆ เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถดำเนินการตรวจสอบได้ทันที ระบบ I/O Alarm ยังสามารถตั้งค่าให้เชื่อมต่อกับสัญญาณแจ้งเตือนและไฟสัญญาณ เพิ่มความปลอดภัยในการดูแลและเฝ้าระวังในสถานที่
การจัดการข้อมูลและพื้นที่จัดเก็บที่ยืดหยุ่น
เครื่องบันทึกภาพ NVR Hilook รองรับการติดตั้งฮาร์ดไดรฟ์สำหรับบันทึกข้อมูล โดยรองรับได้สูงสุดถึง 4 ช่อง ขนาด 10TB ต่อช่อง รวมเป็นพื้นที่จัดเก็บสูงสุดถึง 40TB ซึ่งช่วยให้สามารถเก็บบันทึกได้ยาวนานขึ้น การจัดเก็บนี้ยังมีฟังก์ชันการบันทึกแบบ overwrite หรือการเขียนทับอัตโนมัติเมื่อพื้นที่จัดเก็บเต็ม เพื่อให้การบันทึกภาพต่อเนื่องได้โดยไม่จำเป็นต้องลบข้อมูลเก่า นอกจากนี้ NVR Hilook ยังรองรับการตั้งค่าการบันทึกแบบต่อเนื่อง การบันทึกตามช่วงเวลาหรือตามการตรวจจับเหตุการณ์
ระบบการเข้ารหัสข้อมูลเพิ่มความปลอดภัย
เครื่องบันทึกภาพ NVR Hilook มีระบบการเข้ารหัสข้อมูลเพื่อเพิ่มความปลอดภัย โดยใช้เทคโนโลยีการเข้ารหัส AES (Advanced Encryption Standard) ซึ่งช่วยป้องกันไม่ให้ข้อมูลถูกดักจับหรือเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต การเข้ารหัสข้อมูลนี้เป็นสิ่งสำคัญสำหรับองค์กรที่ต้องการความมั่นคงของข้อมูลในการเก็บหลักฐานหรือการบันทึกภาพการเฝ้าระวัง เช่น ธนาคาร สถาบันการเงิน และหน่วยงานที่ต้องการความปลอดภัยสูง
การเข้าถึงและควบคุมผ่านแอปพลิเคชัน HilookVision
เครื่องบันทึกภาพ NVR Hilook สามารถเข้าถึงและควบคุมได้ผ่านแอปพลิเคชัน HilookVision บนอุปกรณ์สมาร์ทโฟนและคอมพิวเตอร์ HilookVision ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถตรวจสอบภาพสดหรือย้อนหลังได้จากระยะไกล โดยสามารถตั้งค่าการแจ้งเตือนเมื่อตรวจพบการเคลื่อนไหวหรือเหตุการณ์ที่ผิดปกติ นอกจากนี้ แอปพลิเคชันยังช่วยให้สามารถควบคุมกล้อง PTZ ปรับเลนส์ ซูม และหมุนกล้องได้จากระยะไกล ซึ่งช่วยเพิ่มความสะดวกในการตรวจสอบความปลอดภัยได้อย่างครอบคลุม
ฟังก์ชัน Smart Detection และการแจ้งเตือนอัตโนมัติ
เครื่องบันทึกภาพ NVR Hilook มาพร้อมฟังก์ชัน Smart Detection ที่สามารถตรวจจับการเคลื่อนไหวได้โดยอัตโนมัติ เมื่อระบบตรวจพบการเคลื่อนไหวหรือสิ่งแปลกปลอม NVR จะส่งการแจ้งเตือนผ่านแอปพลิเคชัน HilookVision ไปยังอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อ ผู้ใช้งานสามารถตรวจสอบได้ทันทีและตัดสินใจดำเนินการตามความเหมาะสม ฟังก์ชันนี้ช่วยลดการตรวจสอบที่ไม่จำเป็นในภาพบันทึก และช่วยให้สามารถจัดการเหตุการณ์ได้ทันที
การควบคุมและจัดการผ่าน Web Interface
เครื่องบันทึกภาพ NVR Hilook สามารถควบคุมและจัดการผ่าน Web Interface ซึ่งสามารถเข้าถึงได้จากเบราว์เซอร์ที่รองรับ เช่น Chrome, Firefox และ Edge Web Interface นี้ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถปรับแต่งการตั้งค่า NVR ได้อย่างละเอียด เช่น การกำหนดค่า IP การตั้งค่า I/O Alarm การจัดการข้อมูลการบันทึก และการควบคุมกล้อง PTZ ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ดูแลระบบที่ต้องการการควบคุมที่มีประสิทธิภาพ
เทคโนโลยี RAID เพิ่มความเสถียรในการจัดเก็บข้อมูล
เครื่องบันทึกภาพ NVR Hilook บางรุ่นรองรับเทคโนโลยี RAID (Redundant Array of Independent Disks) ที่ช่วยเพิ่มความเสถียรในการจัดเก็บข้อมูล RAID ช่วยให้ข้อมูลถูกจัดเก็บบนหลายฮาร์ดไดรฟ์และสามารถเรียกคืนได้หากฮาร์ดไดรฟ์ตัวใดตัวหนึ่งเกิดปัญหา RAID ที่รองรับบน NVR Hilook ได้แก่ RAID 0 RAID 1 และ RAID 5 ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยป้องกันข้อมูลสูญหายและเพิ่มความปลอดภัยในการจัดการข้อมูล