บทความข่าวสารไอที

HardDisk Seagate แต่ละรุ่นแตกต่างกันยังไง เหมาะใช้งานแบบไหน

HardDisk Seagate แต่ละรุ่นแตกต่างกันยังไง เหมาะใช้งานแบบไหน

เชื่อว่าหลาย ๆ คนคงจะรู้จักกับเจ้า HardDisk Seagate กันมาบ้างแล้ว เพราะเป็นที่นิยมในเรื่องคุณภาพและความหลากหลายของรุ่นที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ไม่ว่าจะเป็นพนักงานทั่วไป เป็นเกมเมอร์ หรือสายโปรที่ต้องการพื้นที่ในการจัดเก็บข้อมูลขนาดใหญ่ ซึ่งเจ้าตัว HardDisk Seagate ในแต่ละรุ่น เช่น BarraCuda , Exos , FireCuda , IronWolf , Nytro และ SkyHawk ซึ่งแต่ละแบบจะเหมาะกับการใช้งานในรูปแบบไหนบ้าง มาทำความเข้าใจไปพร้อม ๆ กันได้เลย

 

HardDisk Seagate แต่ละรุ่น กับการใช้งาน

1. Seagate BarraCuda

HardDisk Seagate แต่ละรุ่นแตกต่างกันยังไง เหมาะใช้งานแบบไหนSeagate BarraCuda เป็นฮาร์ดไดร์ฟเริ่มต้นของ Seagate ที่ถูกออกแบบมาให้เหมาะกับการใช้งานทุกชนิดทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานในคอมพิวเตอร์ , โน้ตบุ๊ก , ฮาร์ดดิสก์พกพา หรือ Direct-Attached Storage ซึ่งเจ้าตัว Seagate BarraCuda นั้นจะไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อให้รองรับการทำงานหนักแบบทั้งวันทั้งคืน

 

* เหมาะสำหรับใช้งานกับคอมพิวเตอร์ทั่วไป

 

ความเร็วในการอ่าน / เขียนข้อมูล

  • SSD SATA ขนาด 2.5 นิ้ว

    – ความจุสูงสุด 4 TB
    – ความเร็วในการอ่าน / เขียนสูงสุด 545 / 520 MB/s

  • M.2 NVME

    – ความจุสูงสุด 2 TB
    – ความเร็วในการอ่าน / เขียนสูงสุด 3,450 / 3,200 MB/s

  • HDD ขนาด 2.5 นิ้ว

    – ความจุสูงสุด 5 TB
    – ความเร็วในการเขียนข้อมูลสูงสุด 5,400 – 7,200 Rpm

 

2. Seagate Exos

HardDisk Seagate แต่ละรุ่นแตกต่างกันยังไง เหมาะใช้งานแบบไหนSeagate Exos จะแบ่งออกเป็น Exos E และ Exos X ซึ่ง Exos X จะมาพร้อมกับความจุสูงสุดถึง 20 TB และรองรับการเก็บข้อมูลได้อย่างมหาศาล ถูกออกแบบมาให้ใช้ในงานธุรกิจระดับ Enterprise ได้อย่างครอบคลุม ไม่ว่าจะทำศูนย์ข้อมูล , ประมวลผลแบบกลุ่มเมฆ , ระบบสำรองข้อมูลขององค์กร , ศูนย์รวมกล้องวงจรปิด หรือระบบ RAID ขนาดยักษ์ สามารถรองรับปริมาณของงานได้มากถึง 550 TB ต่อปี และมีค่า MTBF ที่ 2,500,000 ชั่วโมง อีกทั้งยังรองรับการเชื่อมต่อที่ได้ทั้ง SATA III 6 Gb/s และ SAS-3 12 Gb/s

 

* เหมาะสำหรับใช้งานระดับองค์กรขนาดใหญ่

 

ความเร็วในการอ่าน / เขียนข้อมูล

  • HDD ขนาด 2.5 นิ้ว

    – ความจุสูงสุด 2.4 TB
    – ความเร็วในการอ่าน / เขียนสูงสุด 266 / 266 MB/s

  • HDD ขนาด 3.5 นิ้ว

    – ความจุสูงสุด 20 TB
    – ความเร็วในการอ่าน / เขียนสูงสุด 285 / 272 MB/s

 

3. Seagate FireCuda

HardDisk Seagate แต่ละรุ่นแตกต่างกันยังไง เหมาะใช้งานแบบไหนSeagate FireCuda เป็นฮาร์ดไดร์ฟที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อเจาะกลุ่มเกมเมอร์โดยเฉพาะ โดยมีความเร็วในการอ่าน-เขียนข้อมูลได้เร็วขึ้น เพื่อให้การเปิดเกม หรือโปรแกรมต่าง ๆ ทำได้รวดเร็วมากกว่าเดิม ซึ่งลดปัญหาการโหลดข้อมูลไม่ทัน ทำให้เกิดปัญหาเป็นภาพดินน้ำมัน ซึ่งในการเพิ่มความเร็วนี้ ได้ใช้เทคโนโลยีไดร์ฟแบบลูกผสม เรียกว่าไดร์ฟแบบ Solid-State Hybrid Drive (SSHD) โดยจะเป็น HDD ที่มีหน่วยความจำแบบ NAND (เทคโนโลยีเก็บข้อมูลความเร็วสูงที่คล้ายกับ SSD) ในตัวเพื่อทำหน้าที่เป็น Cache ในการเก็บข้อมูลบางส่วนที่ต้องการความเร็วในการอ่าน-เขียนข้อมูลสูง

 

* เหมาะสำหรับเกมเมอร์ หรือเวิร์กสเตชั่นด้านการออกแบบตัดต่อ

 

ความเร็วในการอ่าน / เขียนข้อมูล

  • SSD SATA ขนาด 2.5 นิ้ว

    – ความจุสูงสุด 4 TB
    – ความเร็วในการอ่าน / เขียนสูงสุด 560 / 540 MB/s

  • M.2 NVME

    – ความจุสูงสุด 2 TB
    – ความเร็วในการอ่าน / เขียนสูงสุด 2,400 / 1,800 MB/s

  • SSHD ขนาด 2.5 นิ้ว

    – ความจุสูงสุด 2 TB
    – ความเร็วในการอ่าน / เขียนสูงสุด 140 / 140 MB/s

  • SSHD ขนาด 3.5 นิ้ว

    – ความจุสูงสุด 8 TB
    – ความเร็วในการอ่าน / เขียนสูงสุด 255 / 255 MB/s

 

4. Seagate IronWolf

HardDisk Seagate แต่ละรุ่นแตกต่างกันยังไง เหมาะใช้งานแบบไหนSeagate IronWolf ได้ออกแบบมาใช้ในการทำเซิร์ฟเวอร์ NAS เพื่อเก็บข้อมูลภายในบ้าน หรือธุรกิจขนาดเล็ก โดยตัวไดร์ฟจะมีความทนทานสูง รองรับการใช้งานต่อเนื่องแบบ 24/7 โดยทาง Seagate ได้ระบุเอาไว้ว่าตัวไดร์ฟรองรับปริมาณงานได้มากถึง 180 TB ต่อปี และมีค่า Mean Time Between Failures (MTBF) หรือค่าเฉลี่ยเวลาก่อนที่ฮาร์ดไดร์ฟจะเริ่มมีปัญหาอยู่ที่ 1,000,000 ชั่วโมง

 

* เหมาะสำหรับใช้งานกับ NAS หรืออุปกรณ์เก็บข้อมูลที่เชื่อมต่อกับเครือข่าย

 

ความเร็วในการอ่าน / เขียนข้อมูล

  • SSD SATA ขนาด 2.5 นิ้ว

    – ความจุสูงสุด 4 TB
    – ความเร็วในการอ่าน / เขียนสูงสุด 545 / 520 MB/s

  • M.2 NVME

    – ความจุสูงสุด 2 TB
    – ความเร็วในการอ่าน / เขียนสูงสุด 5,000 / 4,400 MB/s

  • HDD ขนาด 3.5 นิ้ว

    – ความจุสูงสุด 8 TB
    – ความเร็วในการอ่าน / เขียนสูงสุด 285 / 285 MB/s

 

5. Seagate Nytro

Seagate Nytro การใช้งานก็เหมือนกับ Exos โดยทำออกมา 3 รูปแบบคือ SSD SATA, SSD SAS และ SSD NVMe โดยเป็นไดร์ฟ SSD ที่ทำงานได้แบบตลอดเวลา (24/7) และมีค่า MTBF สูงสุดถึง 2,500,000 ชั่วโมงเลยทีเดียว

 

* เหมาะสำหรับใช้งานระดับองค์กรขนาดใหญ่ที่ต้องการประสิทธิภาพสูง

 

ความเร็วในการอ่าน / เขียนข้อมูล

  • SSD NVMe ขนาด 2.5 นิ้ว

    – ความจุสูงสุด 15 TB
    – ความเร็วในการอ่าน / เขียนสูงสุด 7,400 / 7,200 MB/s

  • SSD SATA ขนาด 2.5 นิ้ว

    – ความจุสูงสุด 3.8 TB
    – ความเร็วในการอ่าน / เขียนสูงสุด 530 / 500 MB/s

  • SSD SAS ขนาด 2.5 นิ้ว

    – ความจุสูงสุด 15 TB
    – ความเร็วในการอ่าน / เขียนสูงสุด 2,100 / 1,100 MB/s

 

6. Seagate SkyHawk

HardDisk Seagate แต่ละรุ่นแตกต่างกันยังไง เหมาะใช้งานแบบไหนSeagate SkyHawk เป็นฮาร์ดไดร์ฟที่ออกแบบมาเพื่อรับมือกับ ข้อมูลวิดีโอจำนวนมากที่ส่งมาจากกล้องหลายตัว ที่ต้องมีการเขียนข้อมูลอยู่แทบตลอดเวลา และแน่นอนว่ามันรับมือกับการทำงานแบบ 24/7 ได้ โดยมันสามารถรองรับการเชื่อมต่อกับกล้องได้มากสุดถึง 64 ตัว และมีค่า MTBF อยู่ที่ 1,000,000 ชั่วโมง นอกจากนี้ ยังมี SkyHawk AI ฮาร์ดไดร์ฟที่ได้ใช้ เทคโนโลยี AI ในตัวเพื่อช่วยในการบันทึกวิดีโอได้อย่างชาญฉลาด โดยรองรับกล้องได้สูงสุด 64 ตัว เท่ากับ SkyHawk แต่จะรองรับระบบ AI Streams ได้ด้วย 32 ช่อง และมีค่า MTBF สูงถึง 1,500,000 ชั่วโมง

 

* เหมาะสำหรับใช้งานกับกล้องวงจรปิด

 

ความเร็วในการอ่าน / เขียนข้อมูล

SkyHawk

  • HDD ขนาด 3.5 นิ้ว

    – ความจุสูงสุด 10 TB
    – ความเร็วในการอ่าน / เขียนสูงสุด 210 / 210 MB/s

SkyHawk AI

  • HDD ขนาด 3.5 นิ้ว

    – ความจุสูงสุด 20 TB
    – ความเร็วในการอ่าน / เขียนสูงสุด 285 / 285 MB/s

สรุป

Harddisk Seagate แต่ละรุ่นถูกออกแบบมาเพื่อตอบสนองการใช้งานที่แตกต่างกัน ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้ใช้งานทั่วไป เจ้าของธุรกิจ หรือเกมเมอร์ Seagate มีตัวเลือกที่เหมาะสมกับคุณ หากต้องการประสิทธิภาพที่คุ้มค่าและทนทาน อย่าลืมเลือกฮาร์ดดิสก์ให้ตรงกับความต้องการ เพื่อให้การจัดเก็บข้อมูลของคุณราบรื่นและมีประสิทธิภาพมากที่สุด

 

* เนื้อหาในบทความอาจมีผิดพลาดได้ โปรดตรวจสอบข้อมูลใหม่อีกครั้ง