SSD เริ่มได้รับความนิยมในตลาดการซื้อขายอุปกรณ์คอมพิวเตอร์มากขึ้น เนื่องจากข้อดีในด้านความเร็วที่เหนือกว่าฮาร์ดดิสก์ทั่วไป รวมถึงความน่าเชื่อถือในการใช้งาน ด้วยรูปลักษณ์ภายนอกที่มีขนาดเล็ก และส่วนประกอบที่เป็นชิ้นเดียวกัน ทำให้ผู้ใช้งานส่วนใหญ่คาดว่า SSD ไม่น่าพังง่ายเหมือนฮาร์ดดิสก์แบบจานหมุน ในบทความนี้เราจะมาพูดถึงสาเหตุว่า SSD พัง เกิดจากอะไรบ้าง แล้วจะสามารถกู้คืนข้อมูลได้หรือเปล่านั้น เรามาดูกันเลย
สาเหตุที่ SSD พัง เกิดจากอะไร ?
แท้จริงแล้ว เราไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องการดูแลรักษา SSD อะไรมากนัก เนื่องจากมันไม่มีชิ้นส่วนกลไกเหมือนฮาร์ดดิสก์ที่มีจานหมุนและมีแขนอ่านข้อมูลภายใน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า SSD จะไม่มีวันพังนะ เพราะชิ้นส่วนต่าง ๆ ภายใน SSD จะมีอายุการใช้งานที่เสื่อมสภาพตามกาลเวลา เช่น ตัวเก็บประจุที่เสื่อมสภาพ ตัวจ่ายไฟ หรือชิปควบคุมที่อาจเสื่อมประสิทธิภาพไป ดังนั้น แม้ว่า SSD จะเชื่อถือได้มากกว่าฮาร์ดดิสก์ แต่ส่วนประกอบภายในก็ยังสามารถพังได้อยู่ดี
อัตราการเสื่อมสภาพของ SSD
อัตราการเสื่อมสภาพของ SSD สามารถวัดได้ 3 รูปแบบหลัก ซึ่งทางผู้ผลิตได้ทำการทดสอบอย่างละเอียดในทุก ๆ รูปแบบก่อนที่จะปล่อยถึงมือผู้ซื้อ ดังนี้
-
-
-
-
P/E Cycles (Program-Erase Cycle)
-
-
-
เป็นกระบวนการที่ข้อมูลถูกเขียนลงในบล็อกหน่วยความจำของ SSD แล้วถูกลบและเขียนใหม่ทั้งหมด จะถูกนับเป็นหนึ่งรอบ (1 ไซเคิล) โดยจำนวนรอบที่ SSD สามารถรองรับการใช้งานได้นั้นขึ้นอยู่กับผู้ผลิต ฮาร์ดแวร์ และเทคโนโลยีของ SSD ซึ่งจำนวนรอบสามารถมีได้ตั้งแต่ 500 รอบ จนถึงประมาณ 100,000 รอบ เลยทีเดียว
-
-
-
-
TBW (Terabytes Written)
-
-
-
ค่าที่ใช้วัดความทนทานของ SSD หรือที่เรียกว่า TBW (Terabytes Written) คือค่าที่บอกถึงปริมาณข้อมูลที่สามารถเขียนลงใน SSD ได้ก่อนที่จะเกิดการเสื่อมสภาพ ตัวอย่างเช่น Samsung 860 EVO SSD ขนาด 250 GB มีค่า TBW อยู่ที่ 150 TBW ในขณะที่รุ่น 1 TB มีค่า TBW อยู่ที่ 600 TBW โดยค่า TBW ขึ้นอยู่กับผู้ผลิตและเทคโนโลยีที่ใช้ในแต่ละรุ่นของ SSD นั้น ๆ
-
-
-
-
MTBF (Measurement of Time Between Failures)
-
-
-
เป็นค่าที่ใช้วัดความน่าเชื่อถือ ซึ่งบ่งบอกถึงระยะเวลาการใช้งานที่คาดหวังในสภาวะการใช้งานปกติ โดยส่วนใหญ่แล้วมักจะมีอายุการใช้งานหลายหมื่นชั่วโมงขึ้นไป
โดย SSD นั้นจะมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน ทำให้ผู้ใช้มั่นใจได้ว่าจะไม่เสียหายง่าย ๆ เนื่องจากมีปัจจัยที่ทำให้ SSD อายุสั้นลงไม่มากนัก หนึ่งในปัจจัยเหล่านั้นคือ ภาวะไฟกระชาก และการล้างข้อมูลทิ้ง แต่โดยรวมแล้ว ปัจจัยที่สามารถคาดเดาได้ง่ายที่สุดคือเวลา เพราะเมื่อเวลาผ่านไป ส่วนประกอบอิเล็กทรอนิกส์ก็จะเสื่อมสภาพและเกิดการชำรุดในที่สุด
SSD ใกล้พัง ดูยังไง
วิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันไม่ให้ข้อมูลสูญหายจาก SSD คือการทำความเข้าใจสัญญาณเตือนของมัน เพราะหากยังใช้ฮาร์ดดิสก์แบบจานหมุนรุ่นเก่า จะสามารถสังเกตอาการผิดปกติได้ง่าย ๆ เช่น เสียงที่ดังขึ้นจากการหมุน , เสียงครืดคราด , เสียงคลิก หรือเสียงบิ๊ป ซึ่งเป็นสัญญาณว่าอาจจะพังในเร็ว ๆ นี้ (หรืออาจพังไปแล้ว) แต่สำหรับ SSD นั้นจะไม่มีเสียงเตือนเหล่านี้ ดังนั้น จึงควรสังเกตอาการจากสัญญาณอื่น ๆ แทน เช่น
-
-
- Bad Block Error อาการนี้จะไม่สามารถเขียนข้อมูลลงในบล็อกของ SSD ได้ ซึ่งมักทำให้เกิดปัญหาการค้าง ข้อความผิดพลาด หรือโปรแกรมที่กำลังใช้งานอยู่เด้งออก
- Cannot Write to Disk จะไม่สามารถเขียนข้อมูลลงใน SSD ได้ จะทำให้โปรแกรมเกิดข้อผิดพลาดหรือเด้งออกจากการทำงาน ฯลฯ
- File System Repair หากต้องซ่อมแซมไฟล์ระบบบ่อยขึ้นกว่าปกติ อาจเป็นสัญญาณว่า SSD ใกล้จะเสื่อมสภาพแล้ว
- Boot Crash หากระบบปฏิบัติการไม่สามารถบูตขึ้นมาได้ตามปกติ และไม่สามารถโหลดระบบได้ แสดงว่าได้เวลาต้องเปลี่ยน SSD แล้ว
- Read-Only หาก SSD เข้าสู่โหมดอ่านอย่างเดียว ไม่สามารถเขียนข้อมูลใหม่ได้ นั่นเป็นสัญญาณที่ควรเริ่มสำรองข้อมูลไว้ได้แล้ว
-
SSD พัง สามารถแก้ข้อมูลได้ไหม
อุปกรณ์ SSD มักไม่แสดงอาการผิดปกติหรือแจ้งเตือนใด ๆ ก่อนที่จะพัง เช่นเดียวกับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่น ๆ ที่อาจใช้งานได้ในตอนเช้าแต่พังในตอนบ่าย การกู้ข้อมูลจาก SSD นั้นมีประสิทธิภาพขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย โดยเฉพาะการทำงานของคำสั่ง TRIM ซึ่งจะลบข้อมูลที่ถูกย้ายไปแล้วทำให้การกู้ข้อมูลยากขึ้น นอกจากนี้ โอกาสในการกู้ข้อมูลยังขึ้นอยู่กับสถานะของ SSD ว่าพังโดยสิ้นเชิงหรือข้อมูลสูญหายเพราะไฟกระชาก เป็นต้น
TRIM คืออะไร ? ส่งผลต่อการกู้ข้อมูลอย่างไร
TRIM คือเทคโนโลยีที่ช่วยป้องกันไม่ให้ประสิทธิภาพของ SSD ลดลงหากใช้งานไปนาน ๆ โดยการแก้ไขข้อจำกัดของ SSD ที่ต้องลบข้อมูลจากบล็อกหน่วยความจำก่อนที่จะเขียนข้อมูลใหม่ ซึ่งทำให้เกิดการใช้งานรอบ P / E Cycles ที่ส่งผลให้ SSD เสื่อมสภาพเมื่อเวลาผ่านไป
ซึ่งเทคโนโลยี TRIM คือการทำให้ SSD สามารถเลือกลบข้อมูลเฉพาะส่วนที่ต้องการในบล็อกหน่วยความจำได้ โดยไม่ต้องลบทั้งบล็อกแม้ว่าข้อมูลในบล็อกนั้นจะมีเพียงบางส่วนเท่านั้น ซึ่งช่วยลดจำนวนการทำ P / E Cycles และช่วยยืดอายุการใช้งานของ SSD อย่างไรก็ตาม การใช้ TRIM ทำให้การกู้ข้อมูลที่ถูกลบไปแล้วเป็นเรื่องยากหรือไม่สามารถทำได้ เนื่องจากเมื่อ SSD ทำการลบข้อมูลแล้วเขียนข้อมูลใหม่ทับทันที ซึ่งทำให้ข้อมูลเดิมไม่สามารถกู้คืนมาได้ ดังนั้น TRIM จะมีประโยชน์ในการจัดการข้อมูลและเพิ่มอายุการใช้งานของ SSD แต่ก็ต้องแลกมาด้วยการที่ไม่สามารถกู้ข้อมูลได้ หากเผลอลบไฟล์สำคัญ ๆ ไป
สรุป
แม้ว่า SSD จะมีความทนทานและเร็วกว่า HDD แต่ก็ยังสามารถพังได้จากหลายสาเหตุ เช่น อายุการใช้งานที่ยาวนาน , ความร้อนที่สูงเกินไป , ไฟกระชาก หรือปัญหาจากเฟิร์มแวร์ หาก SSD เสียหายยังสามารถกู้ข้อมูลได้ในบางกรณี โดยการใช้ซอฟต์แวร์กู้ข้อมูลหรือส่งไปยังศูนย์กู้ข้อมูลที่เชี่ยวชาญ ดังนั้น เพื่อป้องกันปัญหา ควรใช้งาน SSD อย่างถูกวิธีและสำรองข้อมูลไว้อยู่เสมอ
* เนื้อหาในบทความอาจมีผิดพลาดได้ โปรดตรวจสอบข้อมูลใหม่อีกครั้ง