สำหรับฮาร์ดดิสก์นั้น หากใช้งานโดยไม่มีการดูแลหรือคอยตรวจสอบ อาจทำให้คอมพิวเตอร์นั้นทำงานได้ช้าลง หรือทำให้เกิดปัญหาสะสมได้ และเพื่อให้คอมพิวเตอร์ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ควรใส่ใจดูแลและบำรุงรักษาฮาร์ดดิสก์อยู่เสมอ ซึ่งในบทความนี้เราก็ได้รวบรวมเคล็ดลับดี ๆ ในการจัดเรียง Hard Disk มาฝากเพื่อน ๆ ให้ได้ลองนำไปใช้กัน
เคล็ดลับในการจัดเรียง Hard Disk
1. สแกนหาไวรัส
การป้องกันไวรัสในระบบคอมพิวเตอร์ ถือเป็นสิ่งสำคัญที่ควรให้ความใส่ใจเป็นอันดับแรก และควรปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอ เพื่อหลีกเลี่ยงความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากไวรัส ซึ่งมีความร้ายแรงมากในปัจจุบัน หากไฟล์สำคัญ ๆ ในฮาร์ดดิสก์ถูกทำลายหรือเสียหาย เพียงเพราะไม่ได้ติดตั้งโปรแกรมป้องกันไวรัส หรือหากติดตั้งแล้ว ควรตรวจสอบสถานะการอัปเดตของฐานข้อมูลไวรัส (Virus Definition) โดยหากข้อมูลดังกล่าวเก่าเกิน 30 วัน ควรอัปเดตทันที เพื่อให้ระบบป้องกันไวรัสทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ หลังจากนั้นควรสแกนฮาร์ดดิสก์ทั้งหมดในระบบ และหากเป็นไปได้ ควรกำหนดตารางการสแกนอย่างสม่ำเสมอทุกสัปดาห์เพื่อความปลอดภัยสูงสุด
2. จัดการไฟล์หรือขยะที่ไม่ได้ใช้
หากใช้งานเครื่องคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน ไฟล์ข้อมูลเก่าและไฟล์ขยะในเครื่องจะสะสมเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เช่น ไฟล์ข้อมูลที่ไม่ได้ใช้งานแล้ว , โปรแกรมที่ไม่ได้ใช้งาน , ไฟล์ชั่วคราวจากการท่องอินเทอร์เน็ต รวมถึงไฟล์ตกค้างจากการติดตั้งโปรแกรมที่ถูกจัดเก็บไว้ในโฟลเดอร์ไฟล์ชั่วคราวของ Windows ซึ่งวิธีที่ง่ายในการจัดเรียง Hard Disk และกำจัดไฟล์ขยะเหล่านี้คือใช้ยูทิลิตี้ Disk Cleanup ของ Windows หรือใช้ตัวเลือกทำความสะอาดไฟล์โดยตรงในโปรแกรม Internet Explorer (IE)
3. กำจัดขยะ
แม้ว่าจะลบไฟล์ขยะไปแล้ว แต่ก็อาจยังมีไฟล์ขยะที่มองไม่เห็นตกค้างอยู่ในฮาร์ดดิสก์ ซึ่งอาจรวมถึงสปายแวร์หรือแอดแวร์ต่าง ๆ การตรวจสอบและกำจัดขยะเหล่านี้จำเป็นต้องใช้โปรแกรมเฉพาะ เช่น Ad-aware หรือ Spybot Search & Destroy ซึ่งสามารถดาวน์โหลดได้ฟรีจากอินเทอร์เน็ต และอย่าลืมอัปเดตฐานข้อมูลของโปรแกรมก่อนเริ่มการสแกนระบบ เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดในการทำงาน
4. ใช้สแกนดิสก์อย่างสม่ำเสมอ
หากพื้นที่เก็บข้อมูลในฮาร์ดดิสก์เกิดความเสียหายจนไม่สามารถอ่านข้อมูลได้ เราจะเรียกจุดที่เสียหายนั้นว่า Bad Sector ซึ่งเกิดจากการที่พื้นผิวของจานแม่เหล็กเสียหาย วิธีแก้ไขคือ ใช้ยูทิลิตี้ Scandisk ของ Windows เพื่อตรวจสอบและค้นหาจุดที่เกิด Bad Sector จากนั้นย้ายข้อมูลที่อยู่ในพื้นที่นั้นไปยังเซกเตอร์อื่นที่ยังใช้งานได้ เพื่อป้องกันการสูญหายของข้อมูล ในหน้าต่างยูทิลิตี้ Scandisk ควรเลือกออปชั่น Scan for and Attempt Recovery of Bad Sectors ก่อนเริ่มการสแกน หากใช้ระบบปฏิบัติการ Windows 98 / Me ควรปิดการทำงานของสกรีนเซฟเวอร์ก่อนใช้งาน Scandisk
5. จัดเรียงข้อมูลให้เป็นระเบียบ
โปรแกรม Defragmenter จะมีอยู่ในทุกเวอร์ชั่นของ Windows ซึ่งช่วยจัดเรียงข้อมูลที่ถูกเขียนลงบนฮาร์ดดิสก์แบบกระจัดกระจายให้เป็นระเบียบ เพื่อให้หัวอ่านของฮาร์ดดิสก์ไม่ต้องทำงานหนัก และสามารถอ่านข้อมูลได้เร็วขึ้น โดยโปรแกรมจะไม่เปลี่ยนแปลงตำแหน่งของไฟล์ในโฟลเดอร์ หรือทำให้หาไม่เจอ เพราะการ Defrag เพียงแค่จัดเรียงข้อมูลบนดิสก์เท่านั้น จะไม่กระทบต่อโครงสร้างการจัดเก็บไฟล์ใน Windows
6. แบ็คอัพข้อมูล
ไม่มีฮาร์ดดิสก์รุ่นไหนหรือยี่ห้อไหน ที่สามารถรับประกันได้ว่าจะมีอายุการใช้งานยาวนานตลอดไป แต่ถึงแม้ฮาร์ดดิสก์จะหมดอายุ ก็ไม่ได้หมายความว่าข้อมูลทั้งหมดในนั้นจะสูญหายไปด้วย โดยสิ่งสำคัญคือ ควรทำการสำรองข้อมูลสำคัญ ๆ อยู่เสมอ โดยเก็บไว้ในอุปกรณ์อื่นที่ไม่ใช่ฮาร์ดดิสก์ที่ใช้งานอยู่ เช่น ฟลอปปี้ดิสก์ , แผ่นซีดี , ดีวีดี หรือหากการใช้งานเหล่านี้ไม่สะดวก แนะนำให้ใช้แฟลชไดรฟ์ที่มีราคาถูกและมีความจุ 128 MB ขึ้นไป
7. อย่าให้เหลือไฟล์ตกค้าง
หากกดปุ่ม Delete เพื่อลบไฟล์ในระบบปฏิบัติการ Windows ไฟล์นั้นจะยังไม่ถูกลบออกจากฮาร์ดไดรฟ์ แต่จะถูกทำเครื่องหมายว่าเป็นพื้นที่ว่างสำหรับเขียนข้อมูลใหม่ ในขณะที่ไฟล์ยังคงอยู่ในตำแหน่งเดิมจนกว่าจะมีการเขียนทับด้วยข้อมูลใหม่ นอกจากนี้ ไฟล์ที่ถูกลบจะถูกย้ายไปถังขยะ เพื่อให้สามารถกู้คืนไฟล์กลับมาได้หากเกิดการลบผิดพลาด แต่หากมั่นใจว่าไม่ต้องการไฟล์เหล่านั้นแล้ว หรือต้องการป้องกันไม่ให้ผู้อื่นสามารถกู้ข้อมูลจากถังขยะได้ ให้ทำการคลิกขวาที่ไอค่อน Recycle Bin และเลือกคำสั่ง Empty Recycle Bin เพื่อทำการลบไฟล์ออกไปอย่างถาวร
8. แบ่งพาร์ทิชั่นเพื่อเก็บข้อมูล
โดยทั่วไปแล้ว ฮาร์ดดิสก์ที่มาจากโรงงานจะไม่มีการแบ่งพาร์ทิชั่น หรือพูดง่าย ๆ คือ หากซื้อฮาร์ดดิสก์ขนาด 80 GB จะได้ไดรฟ์ C ที่มีความจุ 80 GB มาใช้งาน แต่เพื่อให้การใช้งานมีประสิทธิภาพมากขึ้น แนะนำให้แบ่งฮาร์ดดิสก์เป็นพาร์ทิชั่นต่าง ๆ เช่น แบ่งฮาร์ดดิสก์ 80 GB เป็น 2 พาร์ทิชั่น โดยมีพาร์ทิชั่นละ 40 GB จะทำให้ได้ไดรฟ์ C และ D มาใช้งาน
การแบ่งพาร์ทิชั่นนั้นมีข้อดีหลายอย่าง เช่น ช่วยลดภาระของหัวอ่าน เพิ่มความเร็วในการทำงานของฮาร์ดดิสก์ และช่วยให้สามารถแยกเก็บไฟล์สำคัญ ๆ ไว้ในไดรฟ์ที่ต่างจากไดรฟ์ที่ติดตั้งระบบปฏิบัติการ ซึ่งจะช่วยป้องกันการสูญหายจากไวรัสหรือข้อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นกับระบบปฏิบัติการได้ การแบ่งพาร์ทิชั่นสามารถทำได้ระหว่างการติดตั้ง Windows XP แต่หากไม่ได้ทำขั้นตอนนั้น สามารถใช้โปรแกรม Partition Magic ในการแบ่งพาร์ทิชั่นหลังจากนั้นได้
สรุป
การดูแลและจัดระเบียบ Hard Disk เป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม หากอยากให้คอมพิวเตอร์ที่ใช้งานอยู่ทำงานได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น การลบไฟล์ที่ไม่จำเป็น , การจัดระเบียบข้อมูล , การใช้เครื่องมือช่วยต่างๆ รวมถึงตรวจสอบสุขภาพของ Hard Disk จะช่วยให้การทำงานของเครื่องเป็นไปได้อย่างลื่นไหล
* เนื้อหาในบทความอาจมีผิดพลาดได้ โปรดตรวจสอบข้อมูลใหม่อีกครั้ง