SSD คืออะไร ทำไมถึงควรเลือกใช้ในการจัดเก็บข้อมูล

SSD คืออะไร สำหรับคอมพิวเตอร์รุ่นใหม่มักมีหน่วยความอย่าง SSD มาให้ได้เลือกใช้ แต่จะเหมาะและตอบโจทย์ในการใช้งานของคุณมากแค่ไหน วันนี้มาหาคำตอบไปพร้อมกันว่าทำไมถึงไม่ควรพลาดในการเลือกใช้ SSD และราคาจะตรงกับงบประมาณที่คุณวางไว้หรือไม่ เรามาดูไปพร้อม ๆ กันได้เลยครับ

 

SSD คืออะไร ?

SSD (Solid State Drive) คือ อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลชนิดหนึ่งที่ใช้กับคอมพิวเตอร์และโน้ตบุ๊ก เพื่อเก็บข้อมูลแบบถาวร มีลักษณะการทำงานที่คล้าย Flash Drive ซึ่งจะมีหน้าตาที่หลากหลาย ตั้งแต่แบบสี่เหลี่ยมเหมือน Hard Disk ไปจนถึงแบบแผ่น โดยใช้หน่วยความจำแบบ Flash Memory Chips ทำให้การทำงานรวดเร็วและเสถียรกว่า

 

SSD ถูกสร้างมาเพื่อทดแทนฮาร์ดดิสก์ ทำให้เร็วและทนต่อแรงกระแทกมากกว่าฮาร์ดดิสก์ที่ใช้จานหมุน ด้วยขนาดที่เล็กและไม่มีจานหมุนภายใน ทำให้กินไฟน้อย เมื่อนำไปลง Windows จะทำให้ใช้เวลาเปิดเครื่องน้อยลง ซึ่งปัจจุบัน SSD จะมีความจุตั้งแต่ 128 GB ไปจนถึงหลาย TB เลยทีเดียว

 

ประเภทของ SSD มีอะไรบ้าง ?

SSD จะมีด้วยกันหลายประเภท หลายขนาด หลายรูปทรง ให้ได้เลือกใช้ ซึ่งแต่ละชนิดจะมีข้อดี-ข้อเสียที่ต่างกัน ดังนี้

 

1. แบบ SATA III

แบบ SATA III หนึ่งใน SSD ที่ได้รับความนิยมสูง เป็นแบบมาตรฐาน SSD ที่ถูกออกแบบมาให้เชื่อมต่อได้เหมือน HDD ทั่วไป ขนาด 2.5 นิ้ว เหมาะกับคอมพิวเตอร์และโน้ตบุ๊คทั่วไป

 

SATA เป็น Formfactor ที่มีการพัฒนามาทั้งหมด 3 เวอร์ชั่น ได้แก่ เวอร์ชั่น 1 , 2 , 3 และ Express (SATAe หรือเวอร์ชั่น 3.2) โดยมีอัตราความเร็วในการส่งข้อมูลในแต่ละรุ่นดังนี้

• • SATA 1.0 – 1.5 Gb/s , 150 MB/s
  • SATA 2.0 – 3 Gb/s , 300 MB/s
  • SATA 3.0 – 6 Gb/s , 600 MB/s
  • SATAe 16 Gb/s , 1.97 GB/s

2. แบบ mSATA

แบบ mSATA จะเป็น SSD ที่มีความเร็วเหมือน SATA III แต่ขนาดจะเล็กลงเพื่อใช้สำหรับ Ultra-Thin Notebook , Tablet PC ให้มีประสิทธิภาพในการทำงานที่ดีขึ้น ซึ่ง mSATA เวอร์ชั่นล่าสุด สามารถเก็บข้อมูลได้ถึง 1 TB และมีความเร็วในการอ่านและเขียนสูงสุดถึง 6 gbps ที่มีอัตรากินไฟต่ำ แต่ทำงานได้เสถียร

 

ข้อดี : ขนาดเล็กกะทัดรัด แต่ทำงานได้เหมือน SATA SSD ทั่วไป ที่สำคัญต้องคอยระวัง เวลาเลือกซื้อเพื่อติดตั้งต้องมั่นใจว่าคอมพิวเตอร์ที่ใช้มี Slot ที่รองรับการติดตั้งด้วย

 

3. แบบ M.2

แบบ M.2 เป็น SSD อีกรูปแบบที่ถูกออกแบบมาใหม่ ซึ่งจะมีประสิทธิภาพที่สูงกว่าแบบ SATA หลายเท่าตัว และปัจจุบันจะมีอยู่ 3 ขนาด ได้แก่ ขนาด 2242 , ขนาด 2260 และขนาด 2280 ซึ่งตัวเลขเหล่านี้จะบอกถึงความกว้างและความยาวของตัว SSD เช่น ขนาด 2280 คือตัว SSD ที่มีขนาดความกว้างอยู่ที่ 22 mm. และความยาวอยู่ที่ 80 mm. นั่นเอง

 

4. แบบ PCIe

แบบ PCIe ถูกออกแบบมาเพื่อสำหรับเสียบลงบนสล๊อต PCI Express x16 เพื่อประสิทธิภาพและการทำงานที่ดีมากขึ้น

 

5. แบบ M.2 NVMe

แบบ M.2 NVMe หรือ MVM Express (Non-Volatile Memory Express) เป็นเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดสำหรับ SSD ในปัจจุบัน แต่จะมีแค่คอมพิวเตอร์หรือโน้ตบุ๊ครุ่นใหม่ ๆ เท่านั้นที่รองรับการทำงานแบบ NVMe ได้ และยังสามารถเชื่อมต่อการรับ-ส่งข้อมูลจาก SSD กับ CPU ได้โดยตรง

 

เลือกใช้ SSD มีข้อดีอย่างไร ?

1.มีความเร็วในการอ่านเขียนข้อมูลสูงกว่าฮาร์ดดิส
2.มีขนาดเล็ก เพราะไม่มีกลไกจานหมุน
3.ไม่มีเสียงดัง ๆ จากการใช้งานเหมือนจานหมุนของฮาร์ดดิส
4.ทนต่อการตกจากที่สูง
5.ไม่ค่อยร้อน
6.กินไฟน้อย

 

เหตุผลที่ควรเลือกใช้ SSD

1. มาพร้อมขนาดที่เล็ก

ขนาดที่เล็ก นอกจากจะไม่รบกวนอุปกรณ์ชิ้นอื่นและช่วยประหยัดพื้นที่ เพื่อเหลือไปเพิ่มฮาร์ดแวร์ที่มาเพิ่มความเร็วแรงแล้ว ยังสามารถช่วยให้น้ำหนักโดยรวมของอุปกรณ์ลดลงอีกด้วย ยิ่งหากเป็นอุปกรณ์พกพา แต่หากเลือกใช้ SSD จะเสริมความคล่องตัวได้มากกว่าอย่างแน่นอน

 

2. เร็วและจุได้เยอะ

แม้ว่า SSD จะมาพร้อมขนาดที่เล็ก น้ำหนักเบา แต่เรื่องความเร็ว บอกเลยว่าทำให้ได้ดีกว่า HDD อย่างเหนือชั้น

 

3. เชื่อมต่อได้หลายแบบ

หากเลือกใช้ SSD จะสามารถมองหาการเชื่อมต่อที่ซัพพอร์ตได้ง่ายกว่า เหมาะกับการนำไปเสริมกำลังให้อุปกรณ์ หรือเลือกใช้เพื่อเป็นความแรงขุมพลังใหม่ โดยเป็นอุปกรณ์ที่มีแนวโน้มในการพัฒนาที่ล้ำหน้ามากขึ้น

 

เลือกซื้อ SSD อย่างไรให้ตอบโจทย์การใช้งาน

สำหรับการเลือกซื้อ SSD ต้องบอกก่อนว่ามีหลายแบบให้ได้เลือก เพราะนอกจากราคาแล้ว ควรดูว่าคอมพิวเตอร์ที่ใช้ หรืออุปกรณ์ที่จะนำ SSD ไปใส่นั้นรองรับแบบไหน เพราะ SSD จะมีให้เลือกหลายแบบ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น SSD จะเหมาะกับคอมพิวเตอร์ที่ต้องการเรียกข้อมูลที่รวดเร็ว , การเก็บข้อมูลที่ใช้งานบ่อย เพราะต้องเสียบในการเก็บข้อมูลใช้งานด้วยไฟฟ้า แต่อายุอาจไม่ได้ยืนยาวเท่า Hard Disk แต่ก็เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับคนในยุคปัจจุบัน

 

สรุป

SSD คือ เทคโนโลยีที่ช่วยให้การจัดเก็บข้อมูลในคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์อื่น ๆ ทำงานได้เร็วและมีประสิทธิภาพสูง การเปลี่ยนมาใช้ SSD จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการทำงานหรือเล่นเกมได้เป็นอย่างมาก แม้ราคาจะสูงกว่า HDD แต่ก็มีข้อดีหลาย ๆ ด้าน เช่น ความเร็วในการทำงาน , ความทนทาน และการประหยัดพลังงาน เป็นต้น

 

* เนื้อหาในบทความอาจมีผิดพลาดได้ โปรดตรวจสอบข้อมูลใหม่อีกครั้ง