ในปัจจุบัน จอคอม ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยนำเทคโนโลยีต่าง ๆ อัดแน่นเข้าไปเพื่อดึงดูดความสนใจของผู้ใช้ และสร้างความรู้สึกที่ว่า จอตัวนี้ก็น่าสนใจ หรือ จอตัวนี้ก็น่าใช้ แต่การเลือกจอคอมพิวเตอร์ที่เหมาะสมและตอบโจทย์การใช้งานของเรานั้น ไม่ใช่เรื่องง่าย หากใครที่ยังลังเลหรือไม่แน่ใจว่าควรเลือกยังไง มาดูกันว่ามีปัจจัยใดบ้างที่ควรพิจารณาก่อนตัดสินใจเลือกซื้อ เพื่อให้ได้จอคอมพิวเตอร์ที่ตอบโจทย์การใช้งานของเรามากที่สุด
5 วิธี ก่อนเลือกซื้อจอคอม
1. จำนวนพิกเซล
การเลือกจอคอมพิวเตอร์สำหรับใช้งานทั่วไป ไม่จำเป็นต้องเลือกจอที่รองรับจำนวนสีมาก แต่ควรตรวจสอบว่าแม่สีของจอนั้นมีมาตรฐานที่รองรับสีแบบ 28 บิต ซึ่งประกอบด้วย สีแดง 8 บิต , สีเขียว 8 บิต และสีน้ำเงิน 8 บิต แต่หากต้องใช้กราฟิกหรือมัลติมีเดียระดับมืออาชีพ อาจต้องลงทุนเพิ่ม เพื่อเลือกจอที่รองรับจำนวนสีที่มากขึ้นนั่นเอง
2. ใช้งานได้ทุกสภาพแสง
ในปัจจบัน จอคอมที่หลายคนมักนำมาใช้งาน หลัก ๆ จะมีด้วยกันอยู่ 3 ประเภท ดังนี้
-
-
-
TN
-
-
พาเนลประเภทนี้จะมีจุดเด่นในการดันอัตรารีเฟรชให้ได้ค่าที่สูงที่สุด และมีราคาถูก แต่มีข้อจำกัดในเรื่องความแม่นยำของสีที่อาจเพี้ยนอยู่พอสมควร แถมขอบเขตสีที่แคบ เหมาะสำหรับใช้งานทั่วไป หรือนักกีฬา ESports ที่ต้องการหน้าจอที่มีอัตรารีเฟรชสูง
-
-
-
VA
-
-
ถือเป็นพาเนลที่มีสีสันโดดเด่น และให้คอนทราสต์สูง ซึ่งยังคงถูกใช้อยู่ในจอคอมหลายรุ่น แม้จะให้สีที่เด่นชัด แต่ในด้านอื่น ๆ จะอยู่ในระดับปานกลาง เหมาะสำหรับทำงานหรือเล่นเกมทั่วไป
-
-
-
IPS
-
-
พาเนลประเภทนี้เหมาะสำหรับผู้ใช้งานที่ต้องการมุมมองภาพที่กว้าง พร้อมด้วยสีสันที่แม่นยำไม่ผิดเพี้ยน เหมาะสำหรับงานกราฟิกภาพ , วิดีโอ และเกมระดับ AAA ที่เน้นกราฟิกคุณภาพสูง แต่ก็ต้องแลกมากับราคาที่สูงกว่าพาเนลอื่น ๆ และยังใช้พลังงานมากขึ้นอีกด้วย
3. มาตตฐานล่าสุด
ในปัจจุบัน มาตรฐานที่ได้รับความนิยมคือจอคอมพิวเตอร์ที่มีความละเอียด 4K ซึ่งเป็นความละเอียดสูงสุดที่ผู้ใช้ส่วนใหญ่ต้องการ โดยจะมีความละเอียด 1080p ที่ความกว้าง 1,920 พิกเซล และเหตุผลที่ควรมองเรื่องความละเอียดของจอคอมและความกว้างร่วมกัน เพราะทำให้มองเห็นภาพและสีสันจากจอคอมได้ละเอียดมาก สำหรับจอ 4K ไม่จำเป็นต้องดูประเภทของจอมากนัก เนื่องจากจอ 4K ส่วนใหญ่จะใช้เทคโนโลยี IPS หรือ VA ซึ่งอาจมีราคาที่ค่อนข้างสูง
4. อุปกรณ์เสริม
การเลือกจอคอมพิวเตอร์ จริง ๆ แล้วไม่ใช่เรื่องยาก แต่สิ่งที่หลายคนมักมองข้าม คือเรื่องของอุปกรณ์เสริมคอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์ที่ติดมากับจอคอม หรือควรมีคู่กันอย่างเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น
-
-
- ขาตั้งหรือคอของจอคอมพิวเตอร์
- สามารถปรับระดับในมุมหรือองศาที่ต้องการได้
- ช่องเสียบเชื่อมต่ออื่น ๆ
-
และควรมีช่องเสียบเพื่อเชื่อมต่อการใช้งานอื่น ๆ ด้วย เพราะบางครั้ง หากมีเพียงแค่สายแลนที่เชื่อมต่อระหว่างจอคอมไปยังคอมพิวเตอร์เองนั้น อาจยังไม่เพียงพอสำหรับการใช้งานบางอย่าง
5. แบรนด์มีความน่าเชื่อถือ และมีการรับประกันสินค้า
ปัจจุบัน มีบริษัทชั้นนำหลายแห่งที่ผลิตจอคอมพิวเตอร์ 4K เนื่องจากช่วยเสริมสร้างความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์ และแสดงถึงศักยภาพ รวมถึงความทันสมัยที่ไม่ตกเทรน ในการเลือกซื้อจอคอมพิวเตอร์ 4K นอกจากคุณภาพของผลิตภัณฑ์แล้ว ยังควรพิจารณาปัจจัยอื่น ๆ อย่างการรับประกันสินค้าและบริการหลังการขาย เช่น มีศูนย์บริการมากน้อยแค่ไหน ใช้ระยะเวลาในการรอคอย หรือรอส่งซ่อมนานกี่วัน เป็นต้น
และยังมีอีก 6 ข้อย่อย ที่ควรพิจารณาก่อนเลือกซื้อจอคอม ดังนี้
ขนาดของหน้าจอ
ต้องบอกเลยว่าขนาดของหน้าจอนั้นมีให้เลือกมากมายหลายขนาดมาก ๆ ซึ่งแต่ละขนาดต่างก็มีข้อดีต่างกันออกไป โดยหน้าจอ 4 ขนาด ที่ได้รับความนิยมใช้งานบ่อย ๆ จะมีดังต่อไปนี้
-
-
- 24 นิ้ว เป็นไซส์มาตรฐาน เป็นหน้าจอที่ขนาดกำลังพอดี เหมาะสำหรับเล่นเกมหรือใช้งานทั่วไป และเป็นจอที่เหล่านักแข่ง ESports เลือกใช้
- 27 นิ้ว เป็นหน้าจอที่เหล่าเกมเมอร์ชื่นชอบ เหมาะสำหรับเล่นเกมที่ความคมชัดระดับ 2K
- 32 นิ้ว เป็นหน้าจอที่มีความใหญ่สะใจ ตอบโจทย์การใช้งานได้หลากหลาย
- 34 นิ้ว เป็นหน้าจอที่มีขนาดใหญ่ เหมาะสำหรับสายงานกราฟิกหรือดูหนัง
-
ประเภทของหน้าจอ
สำหรับใครที่ยังไม่รู้ว่าจะเลือกใช้หน้าจอแบบไหนดี ระหว่าง จอแบน กับ จอโค้ง ลองมาดูกันว่าทั้ง 2 แบบนี้ มีข้อดีและขีดจำกัดอะไรบ้าง
-
-
-
จอแบน
-
-
เป็นหน้าจอที่สามารถพบได้ทั่วไป ซึ่งข้อดีของจอประเภทนี้คือ สามารถหาซื้อได้ง่าย และมาพร้อมกับการมองจอได้หลากหลายมุม ทำให้มองภาพรวมได้มากขึ้น เหมาะสำหรับใช้งานทั่วไปจนถึงงานกราฟิกสูง ๆ รวมถึงเล่นเกมประเภท FPS ได้แบบไม่มีปัญหา
-
-
-
จอโค้ง
-
-
ข้อดีของจอประเภทนี้คือ หน้าจอจะโอบรับเข้ากับสายตาของผู้ใช้ ช่วยลดความเมื่อยล้าของดวงตาได้เป็นอย่างดี เหมาะสำหรับดูหนังเพื่อให้สามารถรับชมได้อย่างเต็มอรรถรส และเกมแนว Open World หรือเกมประเภทรถแข่ง เรียกได้ว่าตอบโจทย์สุด ๆ
ความละเอียดของหน้าจอ
การเลือกซื้อจอคอมจากความละเอียดสูงสุดของจอนั้นก็ถือว่าสำคัญเช่นกัน เพราะหน้าจอแต่ละตัวมีความละเอียดที่แตกต่างกัน ไปดูกันว่า แต่ละความชัดนั้นมีข้อดีและข้อจำกัดที่แตกต่างกันอย่างไรบ้าง
-
-
- Full HD (1920 x 1080)
- 2K (2560 x 1440)
- 4K (3840 x 2160)
-
อัตราส่วนของภาพ
การเลือกอัตราส่วนภาพนั้น ควรพิจารณาจากการใช้งานที่ต้องการ ไม่ว่าจะใช้ทำงาน เล่นเกม หรือดูหนัง เพราะการเลือกอัตราส่วนภาพที่เหมาะสมจะช่วยเพิ่มประสบการณ์การรับชมให้ดียิ่งขึ้น
-
-
-
4 : 3 Full-Screen
-
-
เป็นอัตราส่วนภาพที่ถือเป็นสัดส่วนจากยุคเก่าที่ไม่ได้รับความนิยมในปัจจุบันแล้ว เนื่องจากตัวจอให้มุมที่แคบและเล็ก
-
-
-
16 : 9 Wide Screen
-
-
เป็นอัตราส่วนภาพที่ถือเป็นมาตรฐานในปัจจุบัน สามารถรองรับการใช้งานได้อย่างครอบคลุม ไม่ว่าจะทำงาน เล่นเกม หรือดูหนัง
-
-
-
21 : 9 Ultra Wide
-
-
เป็นอัตราส่วนภาพที่แสดงความกว้างมากกว่าปกติ เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบทำงานแบบแบ่งจอ
-
-
-
32 : 9 Ultra Wide
-
-
เป็นอัตราส่วนภาพพี่ใหญ่ด้วยจอที่กว้างเป็นพิเศษ เหมาะสำหรับงานภาพและวิดีโอต่าง ๆ หรือจะใช้เทรดหุ้นก็เห็นได้อย่างคมชัด
อัตรารีเฟรช
เป็นค่าที่บอกว่าหน้าจอสามารถแสดงผลได้กี่เฟรม (FPS) ใน 1 วินาที โดยหน่วยวัดเป็น Hz ซึ่งจอที่มีค่า Hz หากยิ่งสูงจะยิ่งดีกว่า สำหรับใช้งานทั่วไปอาจไม่จำเป็นต้องให้ค่ากับตรงนี้มากนัก แต่สำหรับเหล่าเกมเมอร์แล้ว ค่านี้ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่สามารถเป็นตัววัดชัยชนะได้เลยทีเดียว
-
-
- 60 Hz เป็นค่ารีเฟรชขั้นพื้นฐาน เหมาะสำหรับใช้ทำงานทั่วไป
- 120 Hz เป็นค่ารีเฟรชที่เพียงพอสำหรับเล่นเกมได้เป็นอย่างดี
- 144 Hz ขึ้นไป เป็นค่ารีเฟรชที่เรียกได้ว่าเหล่าเกมเมอร์ต้องการเลยทีเดียว
-
วางจอคอมอย่างไรให้ถูกหลัก
- วางให้ห่างจากสายตา 1 ช่วงแขน
- วางต่ำกว่าระดับสายตา 15° – 30°
- วางห่างจากหน้าต่างหรือหลอดไฟ
- วางจอไว้ด้านหน้าของผู้ใช้
- วางในตำแหน่งที่ลดแสงสะท้อน
สรุป
เป็นยังไงกันบ้างกับวิธีในการเลือกซื้อ จอคอม สำหรับทำงานและเล่นเกมแบบคร่าว ๆ ที่เรานำมาฝากให้ทุกคนได้เลือกกันอย่างจุใจกันในวันนี้ เพื่อให้ได้หน้าจอที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของคุณได้มากที่สุด ทางเราหวังข้อมูลในบทความนี้จะมีประโยชน์สำหรับผู้อ่านบ้างไม่มากก็น้อย
* เนื้อหาในบทความอาจมีผิดพลาดได้ โปรดตรวจสอบข้อมูลใหม่อีกครั้ง