การ์ดจอ ก่อนซื้อต้องดูอะไรบ้าง พร้อมวิธีใส่ด้วยตัวเอง

เกมที่เน้นกราฟิกสวย ๆ ต้องมาพร้อมกับอัตราการรีเฟรชที่รวดเร็ว เพื่อให้ภาพเคลื่อนไหวได้อย่างลื่นไหลควบคู่กับความสวยงาม นอกจากจอคอมพิวเตอร์แล้ว อีกสิ่งที่จำเป็นต้องมีประสิทธิภาพสูงในการรองรับการประมวลผลที่หนักหน่วงคือ การ์ดจอ ซึ่งในปัจจุบันการ์ดจอรุ่นใหม่ ๆ ได้ถูกพัฒนาออกมาให้เกมเมอร์ได้สัมผัสกันแล้ว วันนี้เราจะมาแนะนำวิธีการติดตั้งการ์ดจอด้วยตัวเองในขั้นตอนง่าย ๆ หากใครที่พร้อมแล้วตามไปดูกันเลย

ก่อนซื้อการ์ดจอ ต้องดูอะไรบ้าง

สำหรับใครที่กำลังมองหา การ์ดจอ ตัวใหม่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเล่นเกมให้ลื่นไหล จะมี 3 หัวข้อสำคัญที่ต้องพิจารณาก่อนเลือกซื้อการ์ดจอ เพราะแม้จะเป็นการ์ดจอรุ่นใหม่ที่มีประสิทธิภาพสูง ก็อาจไม่สามารถใช้งานร่วมกับชิ้นส่วนอื่น ๆ ได้ หากไม่ตรวจสอบสเปคของส่วนประกอบอื่น ๆ ด้วย มาดูกันว่าก่อนที่จะติดตั้งการ์ดจอใหม่ ควรพิจารณาอะไรบ้าง

• • มี Power Supply ปริมาณที่เพียงพอ

การซื้อการ์ดจอใหม่ นั่นแปลว่าเรากำลังอัปเกรดประสิทธิภาพให้สูงขึ้น แต่การที่การ์ดจอแรงขึ้น ก็ย่อมหมายถึงการใช้พลังงานมากขึ้นด้วย ดังนั้น ก่อนเลือกซื้อการ์ดจอใหม่ ควรตรวจสอบว่า Power Supply ของเรามีกำลังไฟพอหรือไม่ หากไม่พอ ควรพิจารณาซื้อ Power Supply ใหม่พร้อมกัน เพื่อไม่ให้เสียเวลาต้องซื้อทีละตัว

• • พื้นที่ภายในเคส

ถือเป็นเรื่องที่หลายคนพลาดกันมาเยอะ เมื่อไปดู Power Supply แล้วเห็นว่ามีกำลังไฟเพียงพอก็ซื้อเลยทันที แต่พอเริ่มติดตั้งกลับพบว่าเคสของเรามีขนาดเล็กเกินไป ใส่ไม่ได้ ดังนั้น ควรอ้างอิงจากขนาดของการ์ดจอเดิม หรือจำนวนพัดลมในเคสเป็นการประมาณคร่าว ๆ หากต้องการความแม่นยำ ควรวัดพื้นที่ภายในเคสที่เหลือให้ชัดเจน แล้วนำไปเปรียบเทียบกับขนาดของการ์ดจอที่ต้องการเลือกซื้อ

• • จอที่ใช้ เข้ากันได้ดีหรือไม่

หน้าจอคอมพิวเตอร์ เป็นอุปกรณ์หลักที่เชื่อมต่อโดยตรงกับการ์ดจอเพื่อแสดงผล ทำให้ต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าพอร์ตการเชื่อมต่อของจอคอมพิวเตอร์ที่ใช้งานอยู่นั้น ตรงกับพอร์ตของการ์ดจอตัวใหม่หรือไม่ ซึ่งปัจจุบัน พอร์ตที่ใช้สำหรับการเชื่อมต่อจอเพื่อเล่นเกมส่วนใหญ่จะเป็น HDMI และ DisplayPort ซึ่งการ์ดจอรุ่นใหม่ ๆ มักมีพอร์ตเหล่านี้มาให้ครบแล้ว ทำให้ไม่ต้องกังวลมากนัก เว้นแต่จอคอมของเราจะเก่ามาก ยังเป็นแบบ DVI หรือ VGA อยู่ ซึ่งในกรณีนี้ต้องระวังให้ดี

วิธีใส่การ์ดจอด้วยตัวเอง

ขั้นตอนที่ 1 ถอดปลั๊กและสายเชื่อมต่อ

ขั้นตอนแรก ควรถอดปลั๊กและสายเชื่อมต่อก่อน โดยสายที่ควรถอดเป็นสายแรก คือสายไฟที่ต่อเข้ากับ Power Supply เพื่อป้องกันหากเกิดไฟรั่วไหล และเมื่อถอดแล้วควรรออย่างน้อย 10 นาที เพื่อให้ไฟที่ยังคงเหลือในเครื่องหมดก่อน จากนั้นค่อยถอดสายเชื่อมต่อที่ติดอยู่หลังเคสคอมพิวเตอร์ออก ควรถอดทุกสายที่ติดอยู่ให้หมด เพราะต้องยกเครื่องออกมาวางในแนวนอน หากถอดสายไม่หมด อาจทำให้สายตึงเกินไปจนทำให้ขาดได้

ขั้นตอนที่ 2 ถอดฝาข้างของเคสออก

เคสคอมพิวเตอร์ในยุคนี้มักมาพร้อมเคสกระจก เพื่อไว้โชว์ตัวเครื่องสวย ๆ และช่วยให้เปิดฝาเพื่อจัดการข้างในได้ง่ายด้วย แต่ต้องระวังกระจกแตกด้วย ส่วนใครที่เป็นแบบฝาทึบ ให้นำไขควงขันน็อตออกมา แต่ต้องดูข้างให้ถูกด้วย เพราะต้องถอดฝาฝั่งที่เป็นด้านหน้าของเมนบอร์ดออก ซึ่งเป็นที่อยู่ของการ์ดจอนั่นเอง

ขั้นตอนที่ 3 ถอดการ์ดจอออก

การ์ดจอที่อยู่ในเคส จะมีส่วนที่ต้องถอดด้วยกันอยู่ 3 จุด นั่นก็คือ สลักที่การ์ดจอฝั่ง PCI Express ที่ติดเข้ากับเมนบอร์ด , ฝั่งที่ติดอยู่กับตัวเคส ซึ่งเป็นฝั่งของพอร์ตการเชื่อมต่อ และสายที่ติดกับ Power Supply

ในด้านของฝั่ง PCI Express ที่ติดอยู่กับเมนบอร์ด ให้กดสลักลงไปได้เลยแบบตรง ๆ จะทำให้พอร์ต PCI Express หลุดออกมา ส่วนที่ติดกับเคส ต้องใช้ไขควงค่อย ๆ ขันออกมา เพื่อไม่ให้น็อตหลุดหล่นเข้าไปด้านใน เหตุเพราะเอาออกค่อนข้างยาก และอีกส่วนที่ต้องถอดออกมาคือ สายไฟ PCIe Power ที่เชื่อมต่อเข้ากับ Power Supply นั่นเอง

ขั้นตอนที่ 4 ติดตั้งการ์ดจอตัวใหม่เข้าไป

ขั้นตอนนี้จะคล้ายกับขั้นตอนที่ 3 (ทำย้อนกลับ) ควรติดตั้งการ์ดจอเข้ากับเมนบอร์ดก่อน จากนั้นนำด้านที่เป็นพอร์ตการเชื่อมต่อใส่กลับเข้าไปให้พอดีกับช่องของเคสคอมพิวเตอร์ และขันน็อตให้เรียบร้อย จากนั้นนำสาย PCIe Power เสียบเข้ากับการ์ดจอ

ขั้นตอนที่ 5 ลง Driver ใหม่

ขั้นตอนนี้ให้ติดตั้งสายต่าง ๆ กลับเข้าไปเหมือนเดิม จากนั้นให้เปิดเครื่องคอมพิวเตอร์เพื่อทำการทดสอบการใช้งาน ซึ่งบางครั้งอาจเกิดการ Error ได้ เนื่องจาก Driver ที่ใช้ในปัจจุบัน ไม่สอดคล้องกับการ์ดจอตัวใหม่ที่เพิ่งติดตั้งไป และหากใครที่กำลังประสบพบเจอกับปัญหานี้ ให้ลบและติดตั้ง Driver ใหม่อีกครั้ง

สรุป

ก็จบไปแล้วสำหรับบทความเรื่อง การ์ดจอ พร้อมวิธีใส่ด้วยตัวเอง ไม่ยากอย่างที่คิดเลยใช่ไหม แต่กลับเป็นเรื่องที่ท้าทายมากกว่า เนื่องจากการ์ดจอมีการใช้งานร่วมกับหลายชิ้นส่วนภายในคอมพิวเตอร์ ทั้ง CPU , เมนบอร์ด และ Power Supply รวมถึงจอคอมพิวเตอร์ ทำให้การเลือกการ์ดจอสักตัวนั้นต้องพิจารณาความเข้ากันได้กับชิ้นส่วนอื่น ๆ ไปพร้อมกัน เพราะไม่อย่างนั้นอาจไม่สามารถใช้งานได้ร่วมกันได้ ต้องเสียเงินซื้อใหม่หลาย ๆ ครั้ง

* เนื้อหาในบทความอาจมีผิดพลาดได้ โปรดตรวจสอบข้อมูลใหม่อีกครั้ง