กล้องวงจรปิด มีหน้าที่บันทึกภาพและเสียงในพื้นที่ที่ต้องการความปลอดภัย โดยจะทำการส่งสัญญาณภาพไปยังจอมอนิเตอร์ หรืออุปกรณ์ที่ใช้บันทึก เพื่อให้ผู้ใช้สามารถดูย้อนหลังหรือตรวจดูสถานการณ์แบบเรียลไทม์ได้ ถือเป็นอุปกรณ์ที่เรียกได้ว่ามีประสิทธิภาพในการป้องกัน และติดตามเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้นในบริเวณต่าง ๆ ได้ดี เช่น ที่พักอาศัย สถานที่ทำงาน ห้างสรรพสินค้า หรือสาธารณะ เป็นต้น ในบทความนี้เราจะมาพูดถึงประโยชน์ และวิธีการเลือกซื้อกล้องวงจรปิด เพื่อให้เหมาะกับการใช้งานของคุณ
ประโยชน์ของกล้องวงจรปิด
กล้องวงจรปิด (CCTV) ได้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งในการดำรงชีวิตของผู้คนในปัจจุบันเป็นอย่างมาก เนื่องจากในประเทศเราทุกวันนี้ มีปัญหาเรื่องการก่ออาชญากรรม ขโมย และเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันขึ้นมากมาย ทั้งอันตรายต่อชีวิต และในเรื่องของทรัพย์สิน โดยกล้องวงจรปิดนั้นจะมีประโยชน์ต่อผู้ใช้งานดังนี้
-
-
- เพิ่มความปลอดภัย ให้กับคนในพื้นที่นั้น ๆ เพื่อคอยเฝ้าระวังและบันทึกภาพตลอด 24 ชั่วโมง ช่วยลดโอกาสในการเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงได้
- ตรวจสอบเหตุการณ์ได้แบบเรียลไทม์ ผ่านอุปกรณ์เชื่อมต่อ เช่น สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต หรือคอมพิวเตอร์ เป็นต้น
- เป็นหลักฐานในการสืบสวน และตรวจสอบเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ตรวจสอบและควบคุมการทำงาน ของพนักงาน หรือกิจกรรมต่าง ๆ ภายในองค์กร
- สร้างความมั่นใจให้กับผู้อาศัย หรือผู้ใช้บริการในพื้นที่นั้น ๆ ให้มีการดูแลและเฝ้าระวังความปลอดภัยอย่างดี
-
วิธีการเลือกซื้อกล้องวงจรปิด
กล้องวงจรปิด ไม่ว่าจะยี่ห้อไหน รุ่นอะไร ก็ควรพิจารณาในการเลือกซื้อก่อนทุกครั้ง เพื่อให้ได้กล้องวงจรปิดที่ตอบโจทย์ในการใช้งานของเรามากที่สุด โดยจะมีวิธีในการเลือกต่อไปนี้
1. เลือกสถานที่ที่ต้องการติดตั้งกล้องวงจรปิด
ในปัจจุบัน กล้องวงจรปิดได้ผลิตออกมาหลากหลายประเภท ซึ่งในแต่ละประเภทก็จะมีคุณสมบัติที่โดดเด่นแตกต่างกันออกไป ทั้งแบบที่เหมาะสำหรับใช้ภายในอาคารและนอกอาคาร สามารถใช้ได้กับทุกบริเวณ ผู้ใช้ควรเลือกให้เหมาะสมตามรายละเอียดดังนี้
-
-
-
เน้นติดตั้งภายนอกอาคาร (เหมาะสำหรับกล้องวงจรปิดที่มองเห็นได้ชัดในระยะ 10 เมตร)
-
-
กล้องวงจรปิด จะระบุในรายละเอียดว่าควรใช้ภายนอกอาคาร หรือภายในอาคาร โดยสามารถเริ่มเลือกง่าย ๆ ได้จากรายละเอียดเหล่านี้ หากเน้นติดตั้งภายนอกอาคาร แนะนำให้พิจารณาถึงคุณสมบัติในเรื่องของการมองเห็นได้ชัดเจนในระยะ 10 เมตร (มีระบบ Infrared) เนื่องจากจะช่วยให้สามารถมองเห็นภาพได้อย่างครอบคลุม
-
-
-
เน้นติดตั้งภายในอาคาร หรือภายในบ้าน (เหมาะสำหรับกล้องวงจรปิดที่มองเห็นได้ชัดในระยะ 5 เมตร)
-
-
หากต้องการติดตั้งกล้องวงจรปิดภายในอาคาร หรือภายในบ้าน นอกจากสังเกตรายละเอียดกล้องวงจรปิดแล้ว ยังควรพิจารณาคุณสมบัติการมองเห็นได้ชัดในระยะ 5 เมตร (หมุนได้ 360 องศา) อีกด้วย
2. เลือกจากรูปแบบของกล้องวงจรปิด
-
กล้องวงจรปิดแบบมีสาย (ให้ภาพคมชัด มีความละเอียดสูง)
กล้องวงจรปิดแบบมีสาย จะเชื่อมต่อกับแหล่งจ่ายไฟและระบบบันทึกภาพ ทำให้การส่งออกข้อมูลมีความเสถียร หมดห่วงในเรื่องของสัญญาณรบกวนในระยะไกล ช่วยลดความเสี่ยงจากการถูกแฮ็กข้อมูล หรือการสกัดกั้นสัญญาณ ทำให้ข้อมูลมีความปลอดภัยมากขึ้น
นอกจากนี้ยังถ่ายโอนข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว ทำให้สามารถบันทึกภาพที่มีความคมชัดและคุณภาพสูง ซึ่งสามารถพิจารณาความละเอียดของภาพตามความต้องการของผู้ใช้ได้ดังนี้
-
-
- 720p (HD) ความละเอียด 1280 x 720 พิกเซล เป็นความละเอียดมาตรฐานที่ให้ภาพคมชัดในระดับหนึ่ง เหมาะสำหรับใช้งานทั่ว ๆ ไป
- 1080p (Full HD) ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล ให้รายละเอียดค่อนข้างดี และมีภาพที่คมชัด เหมาะสำหรับเฝ้าระวังพื้นที่ขนาดกลางถึงขนาดใหญ่
- 2K (Quad HD) ความละเอียด 2560 x 1440 พิกเซล ให้ภาพที่คมชัดกว่า 1080p มีรายละเอียดมากขึ้น เหมาะสำหรับตรวจสอบรายละเอียดเล็ก ๆ
- 4K (Ultra HD) ความละเอียด 3840 x 2160 พิกเซล ให้ภาพคมชัด และมีรายละเอียดสูงที่สุดในปัจจุบัน เหมาะสำหรับพื้นที่ขนาดใหญ่ และตรวจสอบรายละเอียดสำคัญ เป็นที่นิยมในเรื่องความละเอียดของวิดีโอ
- 5 MP / 8 MP / 12 MP ความละเอียด 5 ล้าน พิกเซล / 8 ล้าน พิกเซล / 12 ล้าน พิกเซล ให้ความคมชัด เหมาะสำหรับใช้งานในพื้นที่ที่ต้องการความละเอียดสูงในการเฝ้าระวัง นิยมใช้เน้นความละเอียดของภาพ แต่ไม่เน้นการเคลื่อนไหวแบบวิดีโอ
-
-
กล้องวงจรปิดแบบไร้สาย (เน้นติดตั้งง่าย แม้ในจุดที่สายสัญญาณเข้าไม่ถึง)
กล้องวงจรปิดแบบไร้สาย ไม่ต้องใช้สายในการเชื่อมต่อสัญญาณภาพและเสียง แต่จะเชื่อมต่อผ่านเครือข่าย Wi-Fi หรือสัญญาณไร้สายอื่น ๆ อย่างสัญญาณวิทยุ ทำให้ติดตั้งง่าย ลดความเกะกะของสาย แถมยังติดตั้งในตำแหน่งที่สายไม่สามารถเข้าถึงได้อีกด้วย
-
กล้องวงจรปิดแบบเครือข่าย (เชื่อมต่อผ่านคอมพิวเตอร์หรือสมาร์ทโฟน)
กล้องวงจรปิดแบบเครือข่าย หรือ IP Camera เป็นกล้องวงจรปิดที่ใช้เครือข่ายอินเทอร์เน็ตหรือเครือข่ายภายใน เช่น เชื่อมต่อผ่าน Wi-Fi , เชื่อมต่อผ่านสายแลน ในการส่งสัญญาณภาพและเสียง ทำให้ภาพมีความคมชัด และสามารถระบุรายละเอียดต่าง ๆ ได้อย่างชัดเจน แถมยังมีคุณสมบัติอื่น ๆ อีก ดังนี้
-
-
- ส่งสัญญาณภาพและเสียงในรูปแบบ Digital ไปยังเครื่องบันทึกวิดีโอเครือข่าย (NVR) หรือเซิร์ฟเวอร์บนคอมพิวเตอร์
- สัญญาณภาพและเสียงที่ส่งผ่านเครือข่ายจะถูกเข้ารหัสเพื่อเพิ่มความปลอดภัย
- เข้าถึงและควบคุมกล้องผ่านเว็บ หรือแอพพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟน ได้จากทุกที่ที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต
- มีฟังก์ชั่นที่หลากหลาย เช่น การตรวจจับการเคลื่อนไหว , การมองเห็นในที่มืด (Night Vision) , การสนทนาแบบสองทาง และการแจ้งเตือนหากมีเหตุการณ์ที่ผิดปกติ
- สามารถติดตั้งได้ทั้งภายในและภายนอกอาคาร เนื่องจากป้องกันน้ำและฝุ่นได้
-
3. เลือกจากฟังก์ชั่นเสริมของกล้องวงจรปิด เพื่อการใช้งานที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ฟังก์ชั่นเสริมในกล้องวงจรปิดจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งาน โดยตอบโจทย์ความต้องการเพิ่มเติมของผู้ใช้ ทำให้ใช้งานได้สะดวกขึ้น ซึ่งแต่ละฟังก์ชั่นจะมีคุณสมบัติเฉพาะตัวดังนี้
-
-
- ฟังก์ชั่น Pan and Tilt : กล้องจะหมุนในแนวนอนและแนวตั้ง เพื่อช่วยเพิ่มมุมการมองเห็นที่ครอบคลุมมากขึ้น
- ฟังก์ชั่น Cloud Storage : บันทึกข้อมูลลงคลาวด์ ช่วยป้องกันการสูญหายของข้อมูล และเข้าถึงข้อมูลได้จากทุกที่
- ฟังก์ชั่น การตรวจจับวัตถุหาย : จะมีการแจ้งเตือนหากวัตถุที่วางไว้หายไป
- ฟังก์ชั่น การตั้งเวลาการบันทึก : ตั้งค่าช่วงเวลาที่ต้องการอยากให้บันทึกข้อมูลได้
- ฟังก์ชั่น การตรวจจับใบหน้า : ช่วยตรวจจับใบหน้าเพื่อระบุและติดตามบุคคลในภาพ
-
4. เลือกจากความจุของหน่วยความจำในกล้องวงจรปิด เพื่อให้เพียงพอต่อการใช้งาน
ความจุของหน่วยความจำ เป็นพื้นที่จัดเก็บข้อมูลที่กล้องวงจรปิดได้บันทึกวิดีโอและเสียงไว้ โดยจะมีความจุให้ได้เลือกหลากหลายขนาดตามการใช้งานที่แตกต่างกันไปดังนี้
-
-
- 32 GB เหมาะสำหรับบันทึกข้อมูลระยะสั้น หรือพื้นที่ที่ติดตั้งกล้องวงจรปิดที่เคลื่อนไหวค่อนข้างน้อย
- 64 GB เหมาะสำหรับบันทึกข้อมูลระยะสั้น หรือพื้นที่ขนาดเล็กที่เริ่มเคลื่อนไหวมากขึ้น
- 128 GB เหมาะสำหรับบันทึกข้อมูลที่ต้องการความละเอียดสูงขึ้นจาก 32 GB หรือ 64 GB
- 256 GB เหมาะสำหรับบันทึกข้อมูลที่มีความยาวมากขึ้น หรือต้องการความต่อเนื่องในการบันทึก เพียงพอต่อการบันทึกภาพและเสียงที่มีความละเอียดสูง
- 500 GB เหมาะสำหรับบันทึกข้อมูลที่ต่อเนื่อง หรือพื้นที่ที่ติดตั้งกล้องวงจรปิดขนาดค่อนข้างใหญ่ สามารถเก็บข้อมูลได้นานหลายสัปดาห์หรือหลายเดือน ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับการตั้งค่าความละเอียดของภาพด้วย
- 1 TB (1000 GB) เหมาะสำหรับบันทึกข้อมูลที่มีความยาวและต่อเนื่อง ในพื้นที่ที่มีการเคลื่อนไหวมาก สามารถเก็บวิดีโอคุณภาพสูงได้โดยไม่ต้องลบข้อมูลบ่อย ๆ
- 2T B ขึ้นไป เหมาะสำหรับบันทึกข้อมูลระยะยาวในระบบกล้องวงจรปิดขนาดใหญ่ หรือระบบเครือข่ายสำหรับกล้องหลายตัว สามารถเก็บข้อมูลได้หลายเดือน หรือเป็นปี
-
สรุป
กล้องวงจรปิด สามารถช่วยบันทึกเหตุการณ์ต่าง ๆ ได้แบบเรียลไทม์ ทำให้สามารถตรวจสอบและป้องกันเหตุการณ์อันตรายต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังสามารถช่วยเก็บหลักฐานและข้อมูลสำคัญได้อีกด้วย ดังนั้น ก่อนติดตั้งกล้องวงจรปิด ควรคำนึงถึงเรื่องค่าใช้จ่ายในการติดตั้ง และบำรุงรักษาอุปกรณ์กล้องวงจรปิดอย่างสม่ำเสมอด้วย
* เนื้อหาในบทความอาจมีผิดพลาดได้ โปรดตรวจสอบข้อมูลใหม่อีกครั้ง