ปัญหาภาพมืด ไม่ชัด หรือเห็นเป็นเพียงเงาดำในกล้องวงจรปิดตอนกลางคืน เป็นความท้าทายที่ผู้ใช้งานระบบรักษาความปลอดภัยต้องเผชิญมาโดยตลอด แม้จะติดตั้งไฟส่องสว่างเพิ่มเติม แต่ก็อาจรบกวนผู้อยู่อาศัยหรือดึงดูดความสนใจของผู้ไม่ประสงค์ดี เทคโนโลยี Starlight จึงถูกพัฒนาขึ้นเพื่อแก้ปัญหานี้โดยเฉพาะ ด้วยความสามารถในการบันทึกภาพสีที่คมชัดแม้ในสภาพแสงเพียง 0.0001 lux หรือแทบจะมืดสนิท
ปัจจุบัน ธุรกิจ บ้านพักอาศัย และพื้นที่สาธารณะต่างต้องการระบบรักษาความปลอดภัยที่ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพตลอด 24 ชั่วโมง การเลือกใช้กล้องวงจรปิดที่เหมาะสมจึงเป็นปัจจัยสำคัญ บทความนี้จะพาไปทำความรู้จักกับเทคโนโลยี Starlight ตั้งแต่หลักการทำงาน ส่วนประกอบสำคัญ ไปจนถึงการเลือกใช้งานให้เหมาะกับความต้องการ เพื่อให้ระบบรักษาความปลอดภัยของคุณทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ไม่พลาดทุกเหตุการณ์สำคัญแม้ในยามค่ำคืน
หลักการทำงานของเทคโนโลยี Starlight
โครงสร้างพื้นฐานของเซ็นเซอร์
เทคโนโลยี Starlight ทำงานด้วยการผสานนวัตกรรมหลายด้านเข้าด้วยกัน โดยมีหัวใจสำคัญอยู่ที่เซ็นเซอร์รับภาพรุ่นพิเศษที่มีขนาดใหญ่กว่าปกติ ใช้เซ็นเซอร์ขนาด 1/1.8 นิ้ว หรือใหญ่กว่า พร้อมเทคโนโลยี Back-illuminated CMOS ที่ย้ายวงจรไฟฟ้าไปอยู่ด้านหลังชั้นรับแสง ทำให้เพิ่มประสิทธิภาพการรับแสงได้มากกว่าเซ็นเซอร์ทั่วไปถึง 30%
พิกเซลบนเซ็นเซอร์ได้รับการออกแบบใหม่ให้มีขนาด 2.9 ไมโครเมตร ซึ่งใหญ่กว่าเซ็นเซอร์ทั่วไปที่มีขนาดเพียง 1.4-1.8 ไมโครเมตร การเพิ่มพื้นที่รับแสงนี้ช่วยให้แต่ละพิกเซลสามารถรับแสงได้มากขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องเพิ่มการขยายสัญญาณที่อาจก่อให้เกิดสัญญาณรบกวน
เทคโนโลยีการรับแสง
เซ็นเซอร์ Starlight ใช้เทคโนโลยี Deep Trench Isolation (DTI) ที่สร้างแนวกั้นระหว่างพิกเซล ป้องกันการรั่วไหลของประจุไฟฟ้าระหว่างพิกเซลข้างเคียง ทำให้ภาพที่ได้มีความคมชัดสูงและลดปัญหา Cross-talk ที่ทำให้เกิดการเลือนของสี
นอกจากนี้ ยังมีการใช้เทคโนโลยี Dual Conversion Gain (DCG) ที่ปรับความไวในการรับแสงได้สองระดับในพิกเซลเดียวกัน ช่วยให้สามารถรับภาพที่มีช่วงความสว่างกว้าง (High Dynamic Range) ได้ดีขึ้น โดยไม่เกิดการสูญเสียรายละเอียดในส่วนที่มืดหรือสว่างเกินไป
การประมวลผลภาพขั้นสูง
ระบบประมวลผลสัญญาณภาพ
ชิปประมวลผลสัญญาณภาพ (ISP) ใน Starlight ได้รับการพัฒนาขึ้นใหม่ทั้งหมด ใช้สถาปัตยกรรมแบบ Multi-core ที่แยกการประมวลผลออกเป็นส่วนๆ สามารถทำงานพร้อมกันได้ ทำให้การประมวลผลภาพทำได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพสูง
ระบบประกอบด้วยหน่วยประมวลผลย่อยหลายส่วน แต่ละส่วนทำหน้าที่เฉพาะ เช่น การลดสัญญาณรบกวน การปรับแต่งสี การควบคุมความคมชัด และการปรับค่าแสง การทำงานแบบขนานช่วยให้สามารถประมวลผลภาพความละเอียดสูงได้แบบเรียลไทม์
ระบบการเรียนรู้เชิงลึก
เทคโนโลยี Deep Learning Analytics ใน Starlight ไม่เพียงแต่ช่วยในการประมวลผลภาพ แต่ยังเรียนรู้และปรับปรุงคุณภาพของภาพอย่างต่อเนื่อง ระบบสามารถวิเคราะห์องค์ประกอบของภาพ แยกแยะวัตถุและพื้นหลัง และปรับแต่งแต่ละส่วนด้วยพารามิเตอร์ที่เหมาะสม
นอกจากนี้ ยังมีระบบจดจำรูปแบบสัญญาณรบกวนที่เกิดขึ้นในสภาพแสงต่างๆ และสามารถกำจัดสัญญาณรบกวนเหล่านั้นได้อย่างแม่นยำ โดยไม่ทำให้รายละเอียดสำคัญของภาพสูญหาย การเรียนรู้จากข้อมูลจริงช่วยให้ระบบปรับปรุงประสิทธิภาพได้อย่างต่อเนื่อง
นวัตกรรมด้านออปติคส์
เทคโนโลยีเลนส์ขั้นสูง
เลนส์สำหรับกล้อง Starlight ได้รับการออกแบบใหม่ทั้งระบบ ใช้แก้วออปติคส์คุณภาพสูงที่มีค่าการส่งผ่านแสง (Light Transmission) สูงถึง 95% ระบบเคลือบเลนส์แบบ Multi-layer นอกจากจะช่วยลดการสะท้อนแสงแล้ว ยังเพิ่มประสิทธิภาพการรับแสงในย่านความยาวคลื่นที่ต้องการ