บทความข่าวสารไอที

วิธีใช้กล้องวงจรปิดHikvision แบบละเอียดทุกขั้นตอน

วิธีใช้กล้อง Hikvision DS-2CD1323G2-LIUF(4mm) แบบละเอียดทุกขั้นตอน ใช้เป็นในครั้งเดียว

วิธีใช้กล้องวงจรปิดHikvision

ใครเพิ่งถอยกล้องวงจรปิด Hikvision DS-2CD1323G2-LIUF(4mm) มา แล้วไม่รู้จะเริ่มยังไง บทความนี้มีคำตอบแบบละเอียดยิบตั้งแต่การเปิดใช้งานครั้งแรก การตั้งค่าทุกเมนู ไปจนถึงฟีเจอร์ลับที่หลายคนไม่เคยรู้ว่ากล้องตัวนี้ทำได้ แนะนำแบบภาษาคน ใช้จริงได้ทันที ไม่ต้องเปิดคู่มือให้ปวดหัวอีกต่อไป

เริ่มต้นยังไงดี อย่าพึ่งรีบติดกล้อง ถ้ายังไม่ Activate

ก่อนจะเริ่มเสียบสายดูภาพจากกล้อง ทุกคนต้องรู้ก่อนว่ากล้อง Hikvision ต้อง “เปิดใช้งาน” หรือ “activate” ก่อนถึงจะเริ่มใช้งานได้จริง ซึ่งมีหลายวิธีให้เลือก แล้วแต่ความสะดวกเลย

Activate ผ่าน SADP Tool

  1. ดาวน์โหลดโปรแกรม SADP มาติดตั้งในเครื่องก่อน (โหลดจากเว็บ Hikvision ได้เลย)
  2. เสียบสายกล้องเข้าระบบเดียวกับคอมให้เรียบร้อย แล้วเปิดโปรแกรม SADP
  3. จะเห็นกล้องโชว์ในรายการแบบยังไม่ active (Inactive)
  4. ตั้งรหัสผ่านใหม่ให้กล้อง (แนะนำให้รหัสแข็งแรงนิดนึง)
  5. เปลี่ยน IP Address ให้ตรงกับเครือข่ายที่ใช้ (Subnet เดียวกัน)

หรือจะใช้ iVMS-4200 ก็ได้ ใครที่ลง iVMS-4200 อยู่แล้ว สะดวกเลย เปิด Device Management ขึ้นมา กล้องที่ยังไม่ activate จะขึ้นให้กดตั้งรหัสผ่านใหม่ได้เลย แล้วก็ค่อยเปลี่ยน IP ทีหลังได้เหมือนกัน

ผ่าน Web Browser ก็ได้เหมือนกัน

ถ้าไม่อยากลงโปรแกรมเพิ่ม ก็ใช้เบราว์เซอร์เข้าที่ IP ของกล้องโดยตรง (ค่าเริ่มต้นคือ 192.168.1.64) จากนั้นระบบจะให้ตั้งรหัสผ่านใหม่ แล้วก็เข้าใช้งานได้ทันที

ตั้งค่าเบื้องต้นให้กล้องทำงานได้ครบทุกฟีเจอร์

ตั้งค่า Live View ให้ชัดที่สุด

กล้องรุ่นนี้รองรับภาพแบบ Full HD 1080p ที่ 25/30 fps ทั้งแบบ Main Stream และ Sub Stream ใครที่ดูสดผ่านหน้าจอบ่อย ๆ ควรเลือก Stream แบบ H.265+ จะช่วยลด Bandwidth ได้ดี

ปรับมุมกล้องแบบ Manual ได้ 3 แกน

ตัวกล้องรองรับการหมุนรอบตัวได้เลย คือ

  • หมุนรอบแนวราบ (Pan) ได้ 0°-360°
  • เงยขึ้นลง (Tilt) ได้ 0°-75°
  • หมุนแนวแกน (Rotate) ได้ 0°-360°

ตั้งโหมดภาพกลางคืนให้ฉลาดสุด ๆ

กล้องรุ่นนี้ใช้เทคโนโลยี Smart Hybrid Light แบบใหม่ ที่เลือกว่าจะใช้ IR หรือ White Light อัตโนมัติ แถมยังมีระยะอินฟราเรดได้ไกลถึง 30 เมตร ใครจะเอาไว้ดูที่มืดคือครบมาก

เสียงชัด ๆ ด้วยไมค์ในตัว

ไม่ต้องพ่วงไมค์แยก กล้องรุ่นนี้มีไมค์ Built-in มาให้เลย เสียงแบบโมโน มีระบบตัดเสียงรบกวนด้วย อย่าลืมเข้าไปเปิด Audio Stream ในหน้าเว็บหรือแอปด้วย ไม่งั้นจะไม่ได้ยินอะไรเลย

ล้ำอีกนิด เปิดระบบตรวจจับคนกับรถ

เซนเซอร์ AI ในกล้องแยกแยะได้ว่าอะไรคือคน อะไรคือรถ ทำให้แจ้งเตือนแม่นขึ้นเยอะ เลือกเปิดได้จากเมนู Event -> Motion Detection แล้วเลือก Target Type ให้เป็น Human หรือ Vehicle

ตั้งค่าบันทึกภาพ ไม่ให้พลาดช่วงสำคัญ
ใส่ SD Card ได้สูงสุด 512 GB

กล้องนี้รุ่นที่ลงท้าย -F จะมีช่อง microSD ในตัว รองรับ microSDXC ได้ถึง 512 GB ถ้าใครไม่ได้ต่อเครื่องบันทึก (NVR) ก็ใช้เก็บข้อมูลในนี้ได้เลย

ตั้งให้บันทึกเมื่อมีเหตุการณ์ก็ได้

ในเมนู Event -> Linkage Method ตั้งให้กล้องบันทึกเฉพาะเวลามี Motion Detection ก็ได้ หรือจะให้มันถ่ายภาพนิ่ง ส่งเมล ส่งแจ้งเตือนไปที่แอป Hik-Connect ก็ทำได้

ใช้แอป Hik-Connect ยังไงให้เวิร์ก

วิธีผูกกล้องกับ Hik-Connect App

  1. โหลดแอป Hik-Connect จาก App Store หรือ Play Store
  2. สแกน QR Code ด้านหลังกล้องหรือในคู่มือกล่อง
  3. ใส่ Verification Code (ตั้งไว้ตอนเปิดใช้งานครั้งแรก)
  4. ต่อ Wi-Fi หรือสาย LAN ให้กล้องตามที่แอปถาม

แอปนี้ทำได้หลายอย่างมาก เช่น ดูภาพสด แจ้งเตือนเมื่อมีคนเดินผ่าน ปรับค่าต่าง ๆ ของกล้องผ่านมือถือเลย

วิธีตั้งค่า Hik-Connect ผ่านหน้าเว็บ

ไปที่ Configuration -> Network -> Advanced -> Platform Access
เลือก Enable แล้วสร้าง Verification Code ใหม่
กดยอมรับ Terms แล้ว Save

ถ้าตั้งค่าถูกต้องแล้ว กล้องจะเชื่อมกับแอปได้ทันที

ตั้งค่าระบบความปลอดภัยให้แน่นหนา

เปลี่ยนรหัสผ่านบ่อย ๆ

ระบบแนะนำให้เปลี่ยนทุกเดือน โดยเฉพาะในพื้นที่ที่ต้องการความปลอดภัยสูง ๆ เช่น โรงงาน ธนาคาร ฯลฯ

ปิดระบบล็อก IP ถ้าไม่ได้ใช้

กล้องจะบล็อก IP หลังใส่รหัสผิดเกิน 7 ครั้ง (admin) ถ้าไม่อยากให้เกิดขึ้นให้ไปปิดที่ Configuration -> System -> Security -> Security Service แล้วติ๊กปิด “Enable Illegal Login Lock”

ตั้ง Admin Recovery ด้วยอีเมล

เผื่อวันไหนลืมรหัสผ่าน จะได้ใช้วิธีรีเซ็ตผ่านอีเมลได้เลย ไปตั้งที่ Configuration -> System -> User Management -> Account Security Settings

เคล็ดไม่ลับอีกนิด ใช้งานให้คุ้มค่าทุกฟีเจอร์

  • ใช้ ROI (Region of Interest) เพื่อกำหนดพื้นที่สำคัญในภาพ จะได้ให้ bitrate สูงเฉพาะส่วนนั้น ประหยัด bandwidth ไปอีก
  • เปิดฟีเจอร์ Privacy Mask ได้สูงสุด 4 จุด ใครที่ต้องเบลอหน้าบ้านเพื่อนหรือส่วนที่ไม่อยากให้โชว์จะได้ทำได้ง่าย ๆ
  • ใช้โหมด Schedule ใน Day/Night Switch เพื่อให้กล้องสลับโหมดกลางวันกลางคืนตามเวลาที่กำหนด ไม่ต้องพึ่งแสงสิ่งแวดล้อม

สเปกเจาะลึกที่หลายคนมองข้าม

  • ใช้เซนเซอร์ 1/2.9″ Progressive CMOS ทำให้ภาพเคลื่อนไหวเนียนขึ้น
  • รูรับแสง F1.6 เก็บแสงได้ดีในที่มืด
  • รองรับ PoE (IEEE 802.3af) ต่อสายแลนเส้นเดียวจบ
  • วัสดุ Metal + Plastic ทนทั้งแดดทั้งฝน IP67 กันน้ำกันฝุ่นเต็มรูปแบบ
  • รองรับมาตรฐานวิดีโอ H.265+ ช่วยประหยัดพื้นที่เก็บไฟล์สุด ๆ
  • มีระบบ Audio Compression แบบ AAC-LC, G.722.1, MP2L2 ฯลฯ เลือกได้ตามต้องการ
  • รองรับการดูภาพพร้อมกัน 6 ช่อง (Simultaneous Live View 6 channels)

อุปกรณ์เสริมที่มีให้เลือกเยอะมาก

ใครที่อยากติดตั้งแบบไม่ธรรมดา กล้องรุ่นนี้มีอุปกรณ์เสริมให้เลือกหลายแบบ

  • ติดผนัง ใช้ DS-1272ZJ-110-TRS
  • ติดเสา ใช้ DS-1275ZJ-SUS
  • มุมตึก ใช้ DS-1276ZJ-SUS
  • เพดานเอียง ใช้ DS-1281ZJ-S
  • กล่องจังชั่น DS-1280ZJ-TR13 ก็มี

ติดตั้งง่าย พอเลือกอุปกรณ์ให้ถูก ก็จะวางตำแหน่งกล้องได้เป๊ะเลย

จุดที่ต้องระวังเมื่อใช้งานจริง

  • อย่ามองตรงไฟ IR หรือไฟขาวเมื่อทำงานอยู่ เพราะอาจเป็นอันตรายต่อสายตา
  • อย่าลืมตั้งเวลาของกล้องให้ตรงกับเวลาจริง โดยเฉพาะถ้าตั้ง Schedule หรือบันทึกเหตุการณ์
  • หลีกเลี่ยงแสงสะท้อน เช่น กระจก หรือผนังขาว ๆ ใกล้เลนส์ เพราะ IR จะสะท้อนเข้าตัวกล้อง ทำให้ภาพขาวโพลน

จบครบทุกการใช้งาน ใครที่ติดตั้ง กล้องวงจรปิดHikvision DS-2CD1323G2-LIUF(4mm) แล้ว ยังไงลองไล่ดูแต่ละขั้นตามนี้ รับรองว่าจะใช้กล้องได้แบบครบฟังก์ชันแน่นอน